วันนี้ (27 ธ.ค.68) เวลา 10.00 น. ท่ามกลางบรรยากาศการรับสมัครและจับฉลากหมายเลขเบอร์เลือกตั้งว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนนทบุรี ที่เป็นไปอย่างคึกคักในวันแรก ได้มีแกนนำทางการเมืองเดินทางมาให้กำลังใจผู้สมัคร โดยหนึ่งในนั้นคือ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีต สส. พรรคประชาชน ซึ่งเดินทางมาร่วมติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัครของพรรค ท่ามกลางความสนใจจากผู้สนับสนุนและสื่อมวลชน ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมและทิศทางการทำงานของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้
นายเท่าพิภพ ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมาในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อมาให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร และเตรียมความพร้อมของพรรคประชาชน โดยระบุว่า ในการเลือกตั้งครั้งก่อนตนเองลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยตนเอง แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะไม่ได้ลงสมัคร อย่างไรก็ตาม บุคลากรของพรรคยังมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการทำงานต่อเนื่อง
นายเท่าพิภพ กล่าวว่า พรรคประชาชนตั้งเป้ารักษาฐานเสียงเดิมไว้ให้ได้ พร้อมทั้งรักษาที่นั่งแบบบัญชีรายชื่อ โดยชี้ให้เห็นว่าผลงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีที่ผ่านมา เป็นการทำงานที่ตอบโจทย์พี่น้องประชาชนอย่างชัดเจน พร้อมยืนยันด้วยความมั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาชนจะสามารถคว้าชัยชนะได้ทั้ง 8 เขตเลือกตั้ง และจะต้องมีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนความสำเร็จดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทีมงานทุกคน รวมถึงแรงสนับสนุนจากประชาชน โดยยอมรับว่าปัจจุบันอาจมีประชาชนบางส่วนรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเมือง หรือกังวลว่าบรรยากาศจะซ้ำรอยกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา จึงอยากขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิและเลือกพรรคประชาชน เพื่อร่วมกันเปลี่ยนแปลงและเดินหน้าการเมืองในทิศทางที่ดีขึ้น
นายเท่าพิภพ ยังฝากถึงผู้ที่สนับสนุนพรรคว่า ช่วงเวลานี้อาจมีหลายประเด็นที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจหรือความหมองใจบ้าง แต่ขอให้เปิดใจและเลือกพรรคประชาชน เพราะเชื่อว่าจะช่วยคลายข้อกังวลต่าง ๆ ได้ พร้อมย้ำว่า หากพบตนเองหรือสมาชิกพรรค สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากพรรคประชาชนยึดหลักการทำงานอย่างมีเหตุผล ซื่อสัตย์ และโปร่งใส
นอกจากนี้ นายเท่าพิภพ ยังขอโอกาสจากประชาชนอีกครั้ง โดยระบุว่า หลายคนชื่นชอบนโยบายของพรรคประชาชนอยู่แล้ว จึงอยากให้เปิดใจรับฟังแนวคิดและแนวทางการทำงานของพรรคให้ครบถ้วน พร้อมย้ำว่า การสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ได้มาโดยง่าย แต่เป็นผลจากนโยบายที่สามารถตอบโจทย์ประชาชนได้ทุกช่วงวัย ตนเชื่อว่าในเวลานี้ ยังไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีความพร้อมในการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้เท่ากับพรรคประชาชน

