ยุทธจักรสีกากีตกเป็นประเด็นให้สังคมกล่าวขานในลักษณะดูแคลนและเสียดสี อีกคำรบหนึ่งว่าตำรวจต้องคู่กับส่วย เมื่อหน้าเสื่อใจถึงกล้าอัดเทประหว่างสนทนากับนายที่สั่งการให้เก็บส่วยแล้วนำเสนอผ่านสื่อโซเซียล
ส่งผลให้พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งเด้งด่วน พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครศรีธรรมราชแต่เสียงในคลิปจะเกี่ยวข้องกับการสั่งเด้งด่วนหรือไม่ ต้องติดตามอย่างเกาะติด
เพื่อความกระจ่างในบท”ประดู่แดง”ขอถ่ายทอดจากเสียงมาเป็นตัวอักษรแบบคำต่อคำเพื่อบันทึกไว้ให้เห็นว่าเนื้อหาลักษณะอาจวนกลับมาแบบแดจาวู สรรพนานในการสนทนาขอใช้คำว่าผู้การฯ กับฉวาง ดังนี้
ผู้การฯ-ฮัลโหล
ฉวาง- สวัสดีครับผม
ผู้การฯ-ฉวางใช่ไหม(ครับ) ชื่อไร
ฉวาง- อุดมศักดิ์ หำครับผม
ผู้การฯ-ไอ้หำ ผมผู้การฯเกรียงเห้ยฉวางคุยกับชุด ฉก. (ชุดเฉพาะกิจ) ผมหรือยัง
ฉวาง-ฉก.ยังไม่เจอครับ
ผู้การฯ-ไม่ได้เจอเหี้ยอะไร มึงปิดให้หมดนะอบายมุขฉวาง เริ่มคืนนี้เป็นต้นไป โต๊ะบอล บ่อนไพ่ เหี้ยอะไรหยุดหมด ทุกกิจกรรม ไอ้ห่ากูสั่งไปแล้วว่าอะไรที่มึงได้กูต้องได้ มึงไม่ได้กูไม่ได้ ฉะนั้นในพื้นที่ฉวางหยุดทั้งหมดไม่เชื่อผมระเนระนาด
ฉวาง-ครับผม ครับๆๆ
ผู้การฯ-ถือว่าให้นโยบายไปแล้ว ไม่ดำเนินการผมไม่สนใจหรอก
ฉวาง-คืออย่างนี้ผู้การฯโจเขาไปทำรายการอยู่ครับ
ผู้การฯ-ใช่ ได้สั่งไปแล้วให้คุยกัน คืออันไหนที่โรงพักมีต้องเรียบร้อยกับชุดฉก.ของผู้การฯ
ฉวาง- อ๋อเรียบร้อยทุกอย่างครับผู้การฯ
ผู้การฯ- เรียบร้อยแล้วเห็นมีอยู่ 13 รายการ
ฉวาง- ถ้าเช่นนั้นอยู่ที่คนเก็บละครับผู้การฯ ผมมีรายการทุกๆอย่างเลยครับ
ผู้การฯ-แล้วเอาให้เขาแล้วหรือยัง
ฉวาง-น้องโจผมไม่เคยรู้จัก
ผู้การฯ-โจๆๆไปยัง ไปแล้วไม่รับสาย(เสียงพูดกับคนอื่น)
ฉวาง-ผมไม่มีเบอร์ครับท่านผู้การฯ
ผู้การฯ-แล้วมึงต้องหาข้อมูลด้วยซิ
ฉวาง-คือข้อมูลผมให้โจได้ ผมมีรายการทุกอย่าง
ผู้การฯ-แล้วทำไมไม่คุยกันตั้งสองเดือนแล้วเป็นหน้าเสื่อวิมานอะไรถึงทำแบบนี้ อย่าเป็นหน้าเสื่อเลยถ้าฉวางทำแบบนี้ไม่ได้
ฉวาง-คือผมประสานพี่
ผู้การฯ-คุณต้องรู้หลักด้วยว่าบก.(กองบังคับการฯ)กับโรงพักมันอยู่อย่างไร
ฉวาง-ครับผม
ผู้การฯ-ถ้าไม่นั้นไม่เหมาะที่จะเป็นหน้าเสื่อหรอก
ฉวาง- คือผู้การฯให้น้องโจโทรฯหาผม ผมจะให้รายละเอียดหมดเลยครับ
ผู้การฯ-คือผมไม่ได้บอกว่าให้โรงพักไปเก็บให้นะ ผมไม่สนใจหรอกว่าเก็บได้หรือไม่ได้ แต่กูรู้ว่ามีตรงไหนบ้างถ้ามึงไม่บอก มึงระเนระนาด
ฉวาง-คือผู้การฯมีๆ
ผู้การฯ-ผมตรงไปตรงมานะ
ฉวาง- ท่านผู้การฯครับมีรายการอยู่ครับ
ผู้การฯ-บอกว่ารายการไม่ได้ก็เลิกไปเลย ต้องเลิกให้หมดหยุดไปเลย ไม่ซีเรียสอะไร ไปดำเนินการเพราะฉะนั้นฉวางผมไม่เอาแล้วนะ เดือนนี้มึงสั่งหยุดทุกกิจกรรม ถ้าไม่หยุดผมเอานปพ.(หน่วยปฎิบัติพิเศษ)ไปล่อระเนระนาดทั้งโรงพักแหละถือว่าให้โอกาสคุณแล้วไม่ยอมดำเนินการสั่งผกก.(ผู้กำกับการ)ไปแล้วด้วยวันนั้น
ฉวาง-อ๋อ คับผมครับ ๆๆ
ผู้การฯ-รู้อยู่แล้วตั้งนานแล้วพรุ่งนี้เช้าเอ็งรายงานตัวกับผมที่บก.9โมง
ฉวาง- ครับผม
ผู้การฯ-ให้มันรู้ว่าใครเป็นใครไอ้ห่า อย่าฮือนะกูบอกให้
เนื้อหาในคลิปเสียงในแวดวงสีกากีต่างทราบกันดีว่ามิใช่เรื่องใหม่ ถ้าเปรียบกับบทละคร เสมื่อนถูกนำมาฉายแบบซ้ำ ๆ ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำหน่วย
ผู้อ่านอาจตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาทำไมถึงไม่มีตำรวจที่เกี่ยวข้องออกมาแฉ คงตอบได้ว่าผู้นำหน่วยที่มาใหม่ไม่มีความโลภปล่อยให้เก็บส่วยเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ ราคาที่สงให้คงเดิม ไม่ปรับราคาขึ้น
แต่ที่คลิปหลุดออกมาพออนุมานได้ว่าผู้นำหน่วยเน้นให้ชุดฉก.เก็บทุกเม็ดพ่วงด้วยการขึ้นราคา เมื่อไม่ได้ตามเป้าหน้าเสื่อจะอยู่ในภาวะกดดันเพราะถูกนายด่าว่าเก็บส่วยไม่เข้าเป้า
ครั้งนี้ถือว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ขยับตัวเร็วสั่งดับไฟแต่ต้นลมสกัดไม่ให้ภาพพจน์องค์กรที่กำลังดีวันดีคืนต้องทรุดลงอีก
แต่ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ต้องเร่งทำความจริงให้กระจ่าง ด้วยการตั้งกรรมการสอบสวนว่าบุคคลที่เป็นคู่สนทนา บุคคลที่ถูกเอ่ยชื่อเป็นใครเกี่ยวข้องกับการเดินสายเก็บส่วยอย่างไร เมื่อได้ความจริงแล้วต้องดำเนินการทั้งคดีอาญาและวินัย รวมถึงประสานปปง.แกะรอยเส้นทางเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบความผิดต้องยึดทรัพย์ เพราะมีข่าวลือสะพัดว่ามีการใช้เงินซื้อตำแหน่งถึง 30 ล้าน
ดังนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ต้องทำให้เป็นคดีต้นแบบเพื่อให้ผบ.ตร.คนต่อไปยึดเป็นโมเดล ที่สำคัญหากผลของคดีมีตำรวจถูกดำเนินคดีอาญาและให้ออกจากราชการ เชื่อว่าคงไม่มีตำรวจคนไหนกล้าที่จะเลียนแบบพฤติกรรมแบบในคลิปเสียงอีกแน่นอน !!!
