ตำรวจสอบสวนกลางบุกค้น 2 จุดย่านสายไหม ทลายแหล่งพักสินค้าเครื่องสำอาง–แชมพูปลอมแบรนด์ดัง พบเช่าโกดังโดยชาวจีน โฆษณาขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำมานานกว่า 6 เดือน เตือนผู้บริโภคระวังอันตรายต่อสุขภาพ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการทลายโกดังเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมปลอมแบรนด์ดังที่ลักลอบจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจยึดของกลางรวมกว่า 118,455 ชิ้น มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท ในพื้นที่เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
ปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. โดยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลอาญาและศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยจำนวน 2 จุด ในซอยเพิ่มสิน 42 เขตสายไหม
จุดแรกเป็นบ้านพักซึ่งใช้เป็นสถานที่รับพัสดุตีกลับ และจุดที่สองเป็นโกดังเก็บสินค้า พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและแชมพูปลอมหลายยี่ห้อ รวมถึงยาสีฟัน ยาสระผมปลอมยี่ห้ออื่น ๆ อีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบสติกเกอร์ ฉลาก หมึกพิมพ์ และอุปกรณ์สำหรับปลอมบรรจุภัณฑ์จำนวนมาก

จากการสืบสวนพบว่าโกดังดังกล่าวมีชาวจีนเป็นผู้เช่า ทำหน้าที่ลักลอบนำเข้าสินค้าปลอมจากต่างประเทศ ก่อนนำมาเก็บไว้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรอคำสั่งซื้อจากลูกค้าในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายเฉลี่ยวันละ 500–1,000 ชิ้น และดำเนินการมาแล้วราว 6 เดือน ทั้งยังมีพฤติกรรมสับเปลี่ยนบัญชีรับโอนเงิน เปลี่ยนชื่อร้านค้า และย้ายสถานที่เก็บสินค้า เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฐานขายเครื่องสำอางปลอม และ พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ ก่อนส่งของกลางให้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ระบุว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการ “ตัดวงจรภัยเงียบ” ที่แฝงมากับการซื้อขายออนไลน์ เนื่องจากเครื่องสำอางเป็นสินค้าที่สัมผัสร่างกายโดยตรง หากใช้สารเคมีไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ตรวจสอบแหล่งที่มาและราคาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ หากพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค ตลอด 24 ชั่วโมง

