หน้าแรกการเมือง“อนุทิน” ย้ำ สแกมเมอร์ เป็นปัญหาระดับโลก ไทย ยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ ขอนานาประเทศ รวมพลังปราบจริงจัง

“อนุทิน” ย้ำ สแกมเมอร์ เป็นปัญหาระดับโลก ไทย ยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ ขอนานาประเทศ รวมพลังปราบจริงจัง

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2568 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในงานประชุมนานาชาติว่าด้วยความร่วมมือระดับโลกเพื่อต่อต้านการหลอกลวงทางออนไลน์ (International Conference on the Global Partnership against Online Scams) โดยยืนยันจุดยืนของประเทศไทยในการให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในฐานะ “วาระแห่งชาติ” และเน้นย้ำว่าปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นภัยคุกคามระดับโลกที่ต้องรับมือร่วมกัน

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณผู้แทนจากนานาประเทศที่เข้าร่วมการประชุม พร้อมระบุว่า การหลอกลวงทางออนไลน์ได้ขยายตัวเกินกว่าจะมองเป็นปัญหาระดับภูมิภาคอีกต่อไป จากการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนและเอเปคที่ผ่านมา ผู้นำหลายประเทศต่างสะท้อนความกังวลตรงกันว่า ประชาชนของทุกประเทศ ไม่ว่าจะมีระดับการพัฒนาแตกต่างกันเพียงใด ต่างตกเป็นเป้าหมายของเครือข่ายอาชญากรรมกลุ่มเดียวกัน ซึ่งอาศัยช่องโหว่ระหว่างระบบของแต่ละประเทศในการก่ออาชญากรรม

“อาชญากรรมออนไลน์สร้างความเสียหายทั้งในเชิงมนุษยธรรมและเศรษฐกิจ และยังสะท้อนถึงความเปราะบางร่วมกันของประชาคมโลก ซึ่งไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้โดยลำพัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมเน้นย้ำว่า พลังทางการเมืองและความมุ่งมั่นเชิงนโยบายเป็นปัจจัยสำคัญในการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่นี้นายอนุทินระบุว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ออนไลน์อย่างจริงจัง โดยได้เสริมความเข้มแข็งด้านการบังคับใช้กฎหมาย จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะทางและศูนย์ต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์ รวมถึงยกระดับการประสานงานระหว่างหน่วยงาน เพื่อรื้อถอนเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ปฏิบัติการอยู่ในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ชี้ว่า บทเรียนสำคัญจากการประชุมครั้งนี้คือ การดำเนินการในระดับชาติจะต้องเดินควบคู่ไปกับความร่วมมือระหว่างประเทศ เนื่องจากเครือข่ายอาชญากรรมสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามพรมแดน เคลื่อนย้ายเงินภายในไม่กี่วินาที และปรับเปลี่ยนรูปแบบการกระทำได้รวดเร็วกว่าระบบของประเทศใดประเทศหนึ่ง

“ถึงเวลาแล้วที่เราต้องก้าวจากการหารือไปสู่การลงมือปฏิบัติจริง ทั้งการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การบังคับใช้กฎหมายข้ามพรมแดน และการสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชน เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อมากขึ้น” นายอนุทิน กล่าว

นายกรัฐมนตรี ระบุเพิ่มเติมว่า ความริเริ่มว่าด้วยหุ้นส่วนโลกเพื่อต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์ และแถลงการณ์ร่วมกรุงเทพฯ ที่จะมีการพิจารณาในวันถัดไป ถือเป็นก้าวสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการรักษาแรงขับเคลื่อนและแปรเปลี่ยนเป็นความร่วมมืออย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมในตอนท้าย

นายอนุทิน ย้ำว่า อาชญากรรมออนไลน์จะเติบโตได้ดีในสภาวะที่โลกแตกแยก แต่จะอ่อนแรงลงเมื่อประเทศต่าง ๆ ร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว พร้อมยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อผลักดันการหารือในวันนี้ไปสู่ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในอนาคต

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img