นายณรงค์ เรืองศรี ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างยิ่ง เนื่องจากในห้วงเวลาดังกล่าวประชาชนมักนิยมเล่นดอกไม้เพลิง รวมถึงมีการจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ หรือโคมควันอย่างแพร่หลาย และที่ผ่านมาพบว่ามักเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่เกิดจากการกระทำดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง
เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและลดความสูญเสีย ตลอดจนเพื่อให้การเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่เป็นไปอย่างมีความสุขและปลอดภัยสูงสุดสำหรับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครทุกคน กรุงเทพมหานครจึงได้กำชับไปยังสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ให้ดำเนินการพิจารณาอนุญาตการจุดและปล่อยพลุ หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันของประชาชนและผู้จัดงานในสถานที่ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การอนุญาตที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
โดยมาตรการดังกล่าวอ้างอิงตาม ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน พ.ศ. 2561 โดยหัวใจสำคัญของข้อบัญญัติคือ ห้ามมิให้ผู้ใดจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่นั้น
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะขออนุญาตต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด และต้องยื่นคำขออนุญาตพร้อมด้วยแผนการป้องกันเหตุอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และแผนผังบริเวณที่จะจุดและปล่อย ต่อผู้อำนวยการเขตพื้นที่ โดยต้องขออนุญาตล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนวันจุดและปล่อย
กรณีที่ได้รับอนุญาตให้จุดพลุในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะกระทำได้ในช่วงคืนวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ตั้งแต่เวลา 23.00 นาฬิกา ถึงเวลา 01.00 นาฬิกา ของวันที่ 1 มกราคมของทุกปี เท่านั้น โดยสามารถอ่านรายละเอียดข้อบัญญัติได้ที่ https://bmc.go.th/wp-content/uploads/2020/05/262.pdf
ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจุดพลุ บั้งไฟ ตะไล โคมลอย หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 27/2559

