ศูนย์แถลงข่าวชายแดนไทย–กัมพูชา ย้ำ 5 หลักปฏิบัติฝ่ายไทย พร้อมโต้ตอบการโจมตีตามกฎหมายสากล – ยันคุ้มครองประชาชนสูงสุด

166

ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ชี้แจงสถานการณ์ล่าสุด หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วย BM-21 และโดรน ยืนยันการตอบโต้ของไทยเป็นไปตามหลักความชอบธรรม–มนุษยธรรม เผยทหารไทยเสียชีวิต 9 นาย พร้อมขอประชาชน-สื่อหยุดเผยแพร่ภาพยุทธการ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น. ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้ชี้แจงภาพรวมสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดน พร้อมสรุปสาระสำคัญและลำดับเหตุการณ์ โดยยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นตามหลักการ 5 ประการ ได้แก่​ หลักความชอบธรรม​, หลักมนุษยธรรม, หลักความโปร่งใสบนพื้นฐานการรักษาความลับทางราชการ, หลักเอกภาพในการสื่อสารแบบ One Voice – One Messageและหลักประชาชนเป็นศูนย์กลาง

ศูนย์แถลงข่าวฯ ระบุว่า การโจมตีของกัมพูชาด้วยเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 และการใช้โดรนโจมตีในพื้นที่ช่องอานม้า เป็นการละเมิดอนุสัญญาสากล และสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและทรัพย์สินประชาชนไทย

ด้านกองทัพเรือได้ดำเนินปฏิบัติการทางทหารภายใต้ชื่อ “ยุทธการตราดปราบปรปักษ์” ทำลายเป้าหมายทางทหารที่เป็นภัยคุกคาม พร้อมใช้อากาศยานโจมตีอย่างเหมาะสม เพื่อป้องปรามการใช้อาวุธหนักต่อฝ่ายไทย และผลักดันกองกำลังกัมพูชาออกจากพื้นที่

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังพบการใช้บ้านเรือนประชาชนกัมพูชาเป็นฐานที่มั่นทางทหาร ซึ่งถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

กองกำลังบูรพาได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนห้ามออกนอกเคหสถานใน 4 อำเภอของจังหวัดสระแก้ว ได้แก่​ อ.ตาพระยา, อ.โคกสูง, อ.อรัญประเทศ และ อ.คลองหาด​ ระหว่างเวลา 19.00–05.00 น. เพื่อป้องกันความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ฝ่ายไทยยังประณามการใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบังกองกำลัง ซึ่งเสมือนนำมรดกโลกมาเป็นตัวประกัน โดยมีโรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ราชการหลายแห่งได้รับผลกระทบจากการโจมตีไร้การเลือกเป้าหมาย ปัจจุบันมีทหารไทยเสียชีวิตแล้ว 9 นาย

ศูนย์แถลงข่าวฯ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานโรงครัวพระราชทานและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยผู้ประสบภัย โดยรัฐบาล หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชนร่วมสนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง​ ขณะกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่าการดำเนินมาตรการด้านความมั่นคงของไทยมีความชอบธรรม เอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้ยื่นหนังสือชี้แจงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพื่อยืนยันความจำเป็นในการปฏิบัติการทางทหารของไทย

รัฐบาลยังได้เปิดให้คนไทยในกัมพูชาลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตและหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อยืนยันตัวตนและขอรับการช่วยเหลือ พร้อมแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปกัมพูชาในช่วงนี้เพื่อความปลอดภัย

ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ภาพ สถานที่ หรือพิกัดการปฏิบัติการของกองกำลังไทย เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปใช้เป็นข้อมูลโจมตี พร้อมเชิญชวนให้ร่วมสื่อสารอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อสะท้อนความชอบธรรมของไทยตามหลักมนุษยธรรมในการป้องกันประเทศ.