ทบ.โต้ ฮุน เซน อย่าบิดเบือน ไทยไม่ใช่ผู้รุกราน–ชี้กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่ม-ฉีกสัญญาหยุดยิง ย้ำไทยมีสิทธิในการป้องกันตนเองจนกว่าภัยคุกคามยุติ

143

กองทัพบก, วันที่ 10 ธ.ค. – จากกรณีที่สื่อกัมพูชารายงานว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ออกแถลงการณ์ด่วนถึงกองกำลังแนวหน้า ระบุว่าขณะนี้ตนได้ลงมาบัญชาการรบร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต แล้ว และกล่าวหาว่าฝ่ายไทยคือผู้รุกราน ได้ใช้อาวุธหนักระดมยิงใส่ฝั่งกัมพูชา พร้อมกล่าวว่าเป็นกลยุทธ์ “ยั่วยุ” หวังดึงให้กัมพูชาโต้ตอบ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการฉีกสัญญาหยุดยิงและทำลายแถลงการณ์สันติภาพ พร้อมสั่งให้ทหารกัมพูชา “อดทน” โดยระบุว่ามีการกำหนด “เส้นแดง” (Red Line) สำหรับการตอบโต้ไว้แล้ว หากยังไม่ถึงจุดนั้น ห้ามหลงกลยิงสวนเด็ดขาด

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายไทยเชื่อมาตลอดว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน คือ ผู้สั่งการบังคับบัญชาตัวจริงของประเทศกัมพูชา ส่วนประเด็นบิดเบือนที่พยายามกล่าวหาไทยเป็น ‘ผู้รุกราน’ กลับแย้งกับความจริงว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ในการนำกำลังพร้อมอาวุธเข้ามาในเขตพื้นที่อธิปไตยไทยในหลายพื้นที่ รวมทั้งการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจำนวนมากบริเวณแนวชายแดน

โดยในช่วงหยุดยิงตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา พบว่าฝ่ายกัมพูชามีพฤติกรรมยั่วยุมาโดยตลอด ที่สำคัญที่สุดคือการใช้อาวุธทุ่นระเบิดทำร้ายฝ่ายไทย มีหลักฐานพิสูจน์ชัดเจน จนทำให้ฝ่ายรัฐบาลไทยขอระงับข้อตกลงร่วม เพราะผลจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กัมพูชาจึงเป็นผู้ที่ฉีกสัญญาต่าง ๆ โดยเจตนาผ่านการกระทำของตนเอง

“นอกจากนี้ กัมพูชาไม่ได้ใช้ความอดทนจริงอย่างที่กล่าวไว้ เพราะจากสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ทหารกัมพูชายิงใส่ทหารไทยอย่างโหดร้าย และไม่มีการแจ้งเตือนก่อน รวมถึงตลอดสองสามวันที่ผ่านมา กัมพูชาใช้อาวุธทุกชนิดโจมตีฝ่ายไทยด้วยปริมาณที่หนาแน่นมาตลอด ซึ่งพบว่ามีพื้นที่พลเรือนได้รับผลกระทบจำนวนมาก” กล่าว

ทั้งนี้ พลตรีวินธัยได้กล่าวย้ำว่า กองทัพบกมีสิทธิในการป้องกันตนเอง จนกว่าภัยคุกคามในพื้นที่ชายแดนจะยุติลง เพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของประชาชนไทยตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักมนุษยธรรม ยืนยันไม่ได้เป็นฝ่ายริเริ่มความรุนแรง แต่มีหน้าที่ต้องตอบสนองต่อการล่วงละเมิดอธิปไตยอย่างจำเป็นและเหมาะสม