พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) แถลงข่าวสถานการณ์ล่าสุดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า การปะทะที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา และมีการยิงปะทะกันตลอดทั้งคืนจนถึงราว 5.00 น. ของวันนี้ ที่ฝ่ายกัมพูชาเปิด 5 จุดปะทะใหญ่เพิ่ม คือ ช่องอานม้า ห้วยตามาเรีย ปราสาทคะนา ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม
พล.ต.วินธัย ระบุว่า การใช้อาวุธสนับสนุนจากกองทัพอากาศ เน้นย้ำว่า การตอบโต้ของฝ่ายไทย เป็นการปฏิบัติต่อเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาเท่านั้น สามารถจำกัดวงและขอบเขตความเสียหายได้เพื่อยับยั้งการโจมตีอาวุธ ยิงสนับสนุนของกัมพูชา ที่จะก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตต่อกำลังพล และบาดเจ็บของฝ่ายไทย และมีความแม่นยำสูง มุ่งหมายเฉพาะเป้าหมายทางทหารในแนวปะทะ ไม่กระทบต่อพลเรือน
นอกจากนี้ ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชามีเป้าหมายที่จะยิงเข้ามาในเป้าหมายพลเรือน ที่สนามบินบุรีรัมย์และโรงพยาบาล แม้จะอยู่ห่างชายแดนมากกว่า 30 กิโลเมตร ก็ตาม ไทยจำเป็นต้องเร่งสกัดอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา ที่กำลังคุกคามทั้งกำลังทหารและพลเรือน อีกทั้งในการปะทะครั้งที่ผ่านมาอาวุธดังกล่าวของกัมพูชา เคยยิงใส่ในพื้นที่เป้าหมายพลเรือนลึกไปในฝ่ายไทย ทำให้ประชาชนความเสียหายและเสียชีวิตบาดเจ็บมาแล้วเป็นจำนวนมาก เมื่อกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา
สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต เบื้องต้นขอยืนยันไว้เพียง 1 ราย แต่ข้อมูลที่ไม่เป็นทางการ แต่ข้อมูลที่ไม่เป็นทางการเหมือนมีอีก 1 ราย ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะขอสื่อสารให้ทราบต่อไป ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขณะนี้มี 7-8 ราย
ส่วนผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า พื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ไม่น่าจะอยู่ในขั้นที่ไว้วางใจได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ผบ.ทบ. ให้หน่วยนั้นมีการถือความพร้อม ถึงแม้จะไม่มีการใช้อาวุธ หรือสื่อสารให้รับทราบ แต่มีการเตรียมการทางยุทธวิธีที่จะตอบโต้ โดยให้ความสำคัญว่า เป้าหมายที่ต้องทำลายคือ ที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา เพราะไม่เพียงแต่กระทบต่อกำลังพลเท่านั้น แต่มีโอกาสสูงที่จะกระทบต่อพี่น้องประชาชนของไทยด้วย
พล.ต.วินธัย ยังย้ำว่า ตามหลักการใช้อาวุธ จะต้องจำกัดขอบเขตในพื้นที่ชายแดน คือ ถ้าออกมาจากนอกเขตพื้นที่ชายแดน สังคมโลกน่าจะยอมรับไม่ได้ และเคยมีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้มาแล้ว ดังนั้น ส่วนใหญ่ในพื้นที่สนามบิน ค่อนข้างมีความห่างไกลจากพื้นที่การรบ แต่มาตรการทางทหารก็ไม่ได้ประมาท เรามีมาตรการที่จะดูแลและป้องกันอยู่แล้ว
