“ปวีณา–ปคม.” บุกช่วย ด.ญ.ไทยใหญ่ อายุ 14 ปี ถูกหลอกทำงานคาราโอเกะลำสาลี ค้นเจอเด็กเพิ่ม – แจ้ง 5 ข้อหาหนักเจ้าของร้าน

611

มูลนิธิปวีณาฯ ประสาน ปคม. บุกช่วยเด็กหญิงไทยใหญ่ อายุ 14 ปี จำนวน 2 ราย หลังแม่พบคลิปลูกเมาไม่ได้สติในร้านคาราโอเกะย่านลำสาลี ตำรวจคุมตัวเจ้าของร้าน แจ้งข้อหาหนักหลายรายการ พร้อมนำเด็กเข้าคุ้มครองทันที

วันที่ 14 พ.ย. 2568 กรุงเทพฯ — มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงชาวไทยใหญ่ อายุ 14 ปี จำนวน 2 ราย หลังถูกหลอกไปทำงานเสิร์ฟเหล้าและอยู่ในสภาพคล้ายมึนเมาในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่านลำสาลี โดยครอบครัวเกรงว่าเด็กจะถูกบังคับค้าบริการ

แม่ของเด็กทั้งสองได้เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล หลังพบคลิปและภาพของลูกสาวในสภาพคล้ายไม่ได้สติ จึงขอให้ช่วยนำตัวออกจากร้านคาราโอเกะดังกล่าว นางปวีณาจึงประสาน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.ณัฎฐพัชร์ งามประดิษฐ์ รอง ผกก.สอบสวน กก.1 บก.ปคม. นำกำลังเข้าตรวจสอบทันที

เมื่อเข้าตรวจร้านคาราโอเกะ พบ ด.ญ.ไทยใหญ่ทั้งสองรายกำลังทำงานชงเหล้าในร้าน และพบหญิงสาวอีกหลายราย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบคัดแยกเหยื่อที่ สน.หัวหมาก

นางปวีณาเปิดเผยว่า แม่เด็กทั้งสองเป็นชาวไทยใหญ่ เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือหลังลูกสาวหายออกจากบ้าน และทราบภายหลังว่าถูกชักชวนให้ไปทำงานในร้านคาราโอเกะ มูลนิธิปวีณาฯ จึงประสานตำรวจ ปคม. จนนำไปสู่การเข้าตรวจค้นและช่วยเหลือดังกล่าว

นอกจากนี้ มูลนิธิปวีณาฯ ยังได้ประสาน น.ส.สิริโสภา เตียนสำรวย ผอ.สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านเกร็ดตระการ) จ.นนทบุรี เพื่อนำเด็กทั้งสองรายเข้าคุ้มครองตามกระบวนการ

ตำรวจได้แจ้งข้อหาต่อเจ้าของร้านคาราโอเกะ รวม 5 ข้อหา ได้แก่​ จ้างแรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี, ให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีทำงานในสถานบริการ, ให้ที่พักพิงแก่บุคคลต่างด้าว, ชักจูงหรือยินยอมให้เด็กกระทำความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ)และไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์

นางปวีณาเตือนสถานบริการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งตาม พ.ร.บ.สถานบริการ, พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน, พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และประมวลกฎหมายอาญา พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ ปคม. ที่ร่วมปฏิบัติงานอย่างรวดเร็วและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ทั่งนี้​ สืบเนื่องจาก​ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2568 นางเอ อายุ 32 ปี และนางบี อายุ 34 ปี ชาวเมียนมา ได้เข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ หลังลูกสาวอายุ 14 ปี ทั้งสองรายหายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. โดยเด็กทั้งสองรู้จักกันทางเฟซบุ๊กและหายตัวไปพร้อมกัน

ต่อมาวันที่ 9 พ.ย. ทั้งสองแม่เห็นคลิปลูกสาวผ่าน TikTok และภาพจากเฟซบุ๊ก อยู่ในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่านลำสาลี ในสภาพแต่งตัวไม่เหมาะสมและคล้ายคนเมา นอกจากนี้ ยังมีคลิปที่เด็กหญิงหนึ่งนอนทุรนทุรายบนเตียงจนทำให้มารดาเป็นลมระหว่างให้ข้อมูลกับมูลนิธิ

วันที่ 13 พ.ย. มูลนิธิปวีณาฯ ได้นำผู้ปกครองไปแจ้งความต่อ ปคม. เพื่อสืบสวนและขยายผล กระทั่งคืนนั้นตำรวจเข้าตรวจค้นพร้อมนางปวีณา พบ ด.ญ.ทั้งสองและเด็กหญิงรายอื่น ๆ ก่อนนำส่งสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เพื่อตรวจสอบและคัดแยกเหยื่อตามขั้นตอน

ตำรวจได้ดำเนินคดีกับเจ้าของร้านตามกฎหมายทุกข้อหา พร้อมเดินหน้าสืบสวนขยายผลเครือข่ายที่อาจเกี่ยวข้องต่อไป.