CIB ลุยกลางขุนเขา ทลาย “สวนส้มเถื่อน” กลางป่าสงวนเชียงใหม่ รวบแรงงานต่างด้าว–5 ผู้ต้องหาพกปืนบุกพื้นที่ต้องห้าม

319

ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการกลางป่าสงวนแห่งชาติ “ขุนแม่ลาย” จังหวัดเชียงใหม่ ทลายแหล่งบุกรุกปลูกสวนส้มเถื่อนกว่า 21 ไร่ พบแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมรวบอีก 5 รายพกอาวุธปืนและกระสุนจำนวนมาก คาดโยงเครือข่ายนายทุนบุกรุกป่ารายใหญ่

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส. พร้อมด้วยทีมสืบสวนจาก กก.4 บก.ปทส. นำโดย พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. และ พ.ต.ต.จิรายุ อิ่นแก้ว สว.กก.4 บก.ปทส. เปิดปฏิบัติการบุกตรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าขุนแม่ลาย” บ้านกองลอย หมู่ 4 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลลอบแผ้วถางป่าปลูก “สวนส้มเถื่อน” ขนาดใหญ่กลางภูเขา

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบพื้นที่ป่ากว่า 21 ไร่ถูกบุกรุกแผ้วถางหมดสิ้น ปลูกส้มเขียวหวานเรียงเป็นแนว พร้อมระบบน้ำสปริงเกอร์และบ่อบาดาลขนาดใหญ่ ภายในกระท่อมกลางสวนพบชายชาวเมียนมา นายสามห้าฯ อายุ 52 ปี ไม่มีเอกสารอนุญาตทำงาน ตรวจพบยาบ้า 6 เม็ด และอุปกรณ์เสพ สารภาพทำงานเฝ้าสวนให้ “นายจ้าง” ชาวไทย ได้ค่าจ้างเดือนละ 5,000 บาทระหว่างตรวจสอบพื้นที่ เจ้าหน้าที่พบชายอีก 5 รายขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในพื้นที่ต้องห้าม เมื่อตรวจค้นพบอาวุธปืน 4 กระบอก และกระสุนจำนวนมาก ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าอาวุธเป็นของตนเอง โดยไม่มีใบอนุญาตครอบครอง

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ได้แก่​ นายสามห้าฯ สัญชาติเมียนมา อายุ 52 ปี, นายณัฐชัยฯ อายุ 31 ปี, นายวีรชัยฯ อายุ 39 ปี, นายอภิชัยฯ อายุ 21 ปี​และ​นายธงชัยฯ อายุ 38 ปี

พร้อมแจ้งข้อหา​ บุกรุกและทำลายป่าสงวนแห่งชาติ
ประกอบกิจการน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ครอบครองและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต​ของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย​ พื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกกว่า 21 ไร่อาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมกระสุนกว่า 40 นัด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.บ่อหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และรายงานผลต่อ บก.ปทส. เพื่อขยายผลตรวจสอบเส้นทางเงินและผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังการบุกรุกป่าครั้งนี้

พ.ต.ต.จิรายุ อิ่นแก้ว สว.กก.4 บก.ปทส. เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งเน้นการตัดวงจรการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมักแฝงตัวในรูปแบบการเกษตรเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะสวนส้มและสวนผลไม้ขนาดใหญ่ที่มักมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง

ผู้ต้องหาทั้งหมดถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ทั้งนี้ การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงภัยการบุกรุกป่าและการกระทำผิดกฎหมายในรูปแบบต่าง ๆ