หน้าแรกการเมือง“อนุทิน” ย้ำ “รมว.ต่างประเทศ” ยึด 4 เงื่อนไข คุยกัมพูชา 17 ตุลาฯ กำชับ จุดยืนไทย ต้องชัดเจน

“อนุทิน” ย้ำ “รมว.ต่างประเทศ” ยึด 4 เงื่อนไข คุยกัมพูชา 17 ตุลาฯ กำชับ จุดยืนไทย ต้องชัดเจน

วันนี้ (14 ตุลาคม 2568) เวลา 12.45 น. ที่อาคารรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมใช้มาตรการเข้มกดดันกัมพูชาให้ปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ ว่า “เรื่องนี้ไทยเองได้ยื่นไว้เป็น 1 ใน 4 เงื่อนไขสำคัญ ที่ให้กัมพูชาปฏิบัติตามในการเจรจา ซึ่งถือเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างสองประเทศ”

นายอนุทิน ระบุว่า ไทยยึดมั่นในอธิปไตยของตนเอง และจะดำเนินการในกรอบทางการทูต โดยย้ำว่า การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์เป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญ ที่จะต้องได้รับการตอบสนองจากกัมพูชา เพื่อให้ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของไทยลดลง

นายกรัฐมนตรี เผยด้วยว่า ในการประชุมหารือไทย–กัมพูชาที่ประเทศมาเลเซียวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม นี้ ได้มอบหมายให้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยึดเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อไว้เป็นกรอบการเจรจา พร้อมเน้นให้ยืนยันจุดยืนของไทยอย่างชัดเจน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นักวิชาการบางส่วนมองว่าการเปิด “ซาวด์ผี” อาจละเมิดสิทธิมนุษยชน นายอนุทิน กล่าวตอบว่า “อย่าไปเอาเรื่องคนอื่นมาถามผม ถามเรื่องผมสิ” พร้อมย้ำว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มการละเมิดอธิปไตย แต่กลับถูกกัมพูชารุกล้ำอย่างต่อเนื่อง

“นายกฯ ไทยก็มองว่า ระเบิดที่มันเข้ามา จรวดที่ยิงเข้ามาในเขตไทย กัมพูชาทำอันตรายให้กับคนไทย โดรนที่บินเข้ามาในเขตไทย นั่นแหละคือสิ่งที่ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย” นายอนุทิน กล่าว

สำหรับคำวิจารณ์ที่ว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ทำงานช้า ไม่ทันใจประชาชน นายอนุทิน กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครอง และประชาชนในพื้นที่พิพาท ว่าทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ “เราต้องให้กำลังใจคนของเรา สนับสนุนทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสามารถในการทำงาน ปกป้องประชาชนและอธิปไตยของไทยได้อย่างเข้มแข็ง”

ส่วนกรณีที่กองทัพภาคที่ 1 นำเครื่องจักรใหญ่เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายกรัฐมนตรีระบุว่า เป็นอำนาจของกองทัพในการดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย และอยู่ในบังคับของกฎอัยการศึก

“กองทัพมีอำนาจเต็มที่ในการตัดสินใจ รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง เพื่อรักษาความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดยืนของไทย ในการเจรจากับกัมพูชา ประกอบไปด้วย 1. การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดการคุกคามต่อไทยในแนวชายแดน 2. การเก็บกู้ทุ่นระเบิด / กำจัดภัยจากวัตถุระเบิดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย ต้องมีการรื้อถอนหรือกู้คืนทุ่นระเบิดที่อาจถูกทิ้งไว้ในแนวเขตแดน 3. การปราบปรามกลุ่มสแกมเมอร์ / อาชญากรรมข้ามชาติ โดยกัมพูชาต้องช่วยดำเนินการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ (scammer syndicates) ที่อาจใช้กัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการ และ 4.การให้ความความร่วมมือในการบริหารจัดการพื้นที่ ชายแดนที่มีปัญหา

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img