นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กกต.ต้องโปร่งใส และทำให้สังคมยอมรับ
กรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ยืดเยื้อเลยกำหนด และมีคำสั่งหัวหน้า คสช.เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ให้สามารถทำต่อโดยไม่จำเป็นต้องยึดระเบียบและให้ถือเป็นที่สุดและชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ กกต.แจ้งว่า ให้ผู้ประสงค์จะร้องเรียนเรื่องการแบ่งเขตไม่เป็นธรรม สามารถร้องได้ตั้งแต่วันที่ ๑๙-๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ แล้ว กกต.จะรีบนำไปพิจารณาและประกาศผลการแบ่งเขตให้เสร็จก่อนวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ นั้น
เพียงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๔.๐๐ น. รองนายกวิษณุ เครืองาม ให้สัมภาษณ์สื่อว่า “ผมทราบว่าเขาแบ่งเขตเสร็จแล้ว โดยแจ้งมาเมื่อวานนี้ (๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑)”
นอกจากนี้ ประมาณ ๒๐.๐๐ น. ของวันเดียวกัน ก็ปรากฏเอกสารระบุรายละเอียดของการแบ่งเขต “ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” จำนวน ๕๗ หน้า ที่ยังไม่มีการลงนาม ของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง แชร์ว่อนในสื่อโซเซียล
เป็นคำถามหนักมาก ที่ กกต.ต้องตอบสังคม
๑) เอกสารดังกล่าว หลุดออกมาสู่สื่อได้อย่างไร ทั้งๆที่ยังไม่มีการลงนาม เพื่อส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา กกต.ต้องเร่งตรวจสอบกลไกภายในสำนักงานที่ปล่อยให้เอกสารสำคัญหลุดมาภายนอก เพราะการแบ่งเขตที่พรรคการเมืองบางพรรคได้รู้ก่อน ย่อมเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง การตรวจสอบ ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะขั้นตอนของการเสนอเอกสารภายใน นับแต่การจัดพิมพ์เอกสารเสร็จไปจนถึงก่อนประธานลงนาม น่าจะมีคนพิมพ์ คนเห็น คนผ่านเอกสาร ไม่กี่คน รีบสอบสวนด่วน
๒) ในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ๕ ท่านเอง ต้องชี้แจงสังคมด้วยว่า จากวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ให้ยื่นคำร้อง กกต.ใช้เวลาวันใดเวลาใด มีกระบวนการขั้นตอนกลั่นกรองอย่างไร จึงสามารถแจ้งรองนายกรัฐมนตรีว่า แบ่งเขตเรียบร้อยในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
๓) ถ้าให้เกิดความโปร่งใสว่า การแบ่งเขตไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาล หรือ คสช. ขอให้ กกต.เปิดเผย เฉพาะคำร้องที่ผ่าน ครม.และ คสช. ว่า มีจำนวนกี่เรื่อง ยื่นโดยใคร ยื่นมาเมื่อใด และมีสาระอย่างไร เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบกับผลการแบ่งเขตที่ประกาศโดย กกต.
นายกรัฐมนตรี เพิ่งบอกหยกๆครับ “เลือกตั้งต้องโปร่งใส”