คดีเขากระโดง-ฮั้วเลือก สว.​ ถ้ามีคนนอนคุก-ยึดที่ดินคืนได้​ บ่งบอกประตูสู่ความศิวิไลซ์แง้มแล้ว

1570

จั่วหัวแบบนี้ผู้อ่านอาจจะงงๆ ว่าทั้งสองคดีจะทำให้ประตูสู่ความศิวิไลซ์เปิดแง้มได้อย่างไร? ที่ยกความศิวิไลซ์มาเขียนถึง “จอมมารน้อย” ได้อ่านข้อความที่แชร์ตามสื่อโซเชียลว่าไม่นานสังคมไทยจะก้าวสู่ความศิวิไลซ์ หมายถึงสังคมไทยกำลังก้าวสู่ความเจริญ

ตามความเข้าใจของ “จอมมารน้อย” ก่อนก้าวสู่ความศิวิไลซ์ ประชาชนทุกคนตั้งแต่ระดับรากหญ้ายันชนชั้นสูง จะต้องมีความเสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมาย วลีเด็ดที่ว่า คุกมีไว้ขังคนจน จะต้องถูกลบออกจากความทรงจำของประชาชนทั้งประเทศ​คนจน คนรวย ผู้อิทธิพลในวงการต่างๆ เมื่อทำผิดกฎหมายและศาลพิพากษาจนถึงที่สุด จะต้องรับโทษเสมอเหมือนกันหมด

ที่ยกตัวคดียึดที่ดินเขากระโดง พื้นที่ที่พระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 พระราชทานให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ถูกตระกูลชิดชอบบุกรุกใช้ประโยชน์ ถ่ายทอดกันจากพ่อสู่ลูก จากลูกสู่หลาน สร้างที่อยู่อาศัย สร้างสนามฟุตบอลช้างอารีน่า มูลค่า 500 ล้านบาท สร้างสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต มูลค่า 2,000 ล้านบาท และสร้างโรงแรมระดับ 3-4 ดาว เป็นต้น

ขณะเดียวกันมีประชาชนเกือบพันครอบครัวสร้างบ้านพักอาศัย ประกอบธุรกิจ บนพื้นที่เขากระโดง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยมีการฟ้องร้องยึดที่ดินคืน และศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่าที่ดินเขากระโดงกว่าห้าพันไร่เป็นกรรมสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายของการรถไฟฯ

ครั้นเมื่อศาลมีคำพิพากษาออกมา ประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเราตั้งตารอว่าจะมีรัฐบาลชุดไหนกล้าที่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำพิพากษาบ้าง แต่ไร้ความเคลื่อนไหว ไม่ว่าเป็นยุครัฐบาลเผด็จการทหารนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอำนาจเต็มมือ ครองอำนาจยาวนานกว่า 8 ปี ไม่กล้าหือที่จะยึดคืน อาจเป็นเพราะมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไร้ความขลัง

ถัดมายุคนายเศรษฐา ทวีสิน มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งให้อธิบดีกรมที่ดินดำเนินการ แต่เป็นไปในทำนองเอื้อให้กับผู้บุกรุก

กระทั่งมาถึงยุค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีเค้าว่าที่ดินเขากระโดงจะถูกยึดคืน กระทั่งพรรคภูมิใจไทยถอนตัว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งดำเนินให้ยึดคืนที่ดินเขากระโดงทันที ด้วยการสั่งเด้งอธิบดีกรมที่ดินยุคนายอนุทินตั้ง ย้ายคนใหม่มาแทน พร้อมมอบเผือกร้อนชิ้นนี้ให้ไปดำเนินการซึ่งนายภูมิธรรมประกาศกร้าวว่าจะต้องเร่งดำเนินการยึด ไม่หวั่นจะถูกฟ้อง เพราะทุกจังหวะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย จะต้องรอดูว่าแอ็กชันครั้งนี้ของจริงหรือปาหี่

คดีที่ 2 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ สืบสวนสอบกรณีฮั้วเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 ผลการสอบสวนสรุปว่าดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหารวมทั้งสิ้น 229 คน แบ่งเป็น สว.ที่ดำรงตำแหน่ง 138 คน กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยรวมถึงเครือข่าย 91 คน​ แจ้งข้อหาขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 70 ผู้ฝ่าฝืน มาตรา 36 มาตรา 62 มีความผิดตามกฎหมาย โดยมาตรา 36 ห้ามฮั้วเลือกตั้ง ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม มาตรา 62 ห้ามร่วมสนับสนุนหรือสมยอมให้ผิดกฎหมาย มาตรา 76 กกต.มีอำนาจสอบสวน หากพบการเลือกไม่โปร่งใส และมาตรา 77(1) หากเกี่ยวกับพรรคการเมือง กกต.เสนอศาลยุบพรรคได้ และยังเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 ห้าม ส.ว. อยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง

ขณะเดียวกันทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกตั้ง สว. ฐานฟอกเงินด้วย​ ถ้ามองถึงองค์ประกอบของทั้งสองคดี จะพบว่าผู้เกี่ยวข้องล้วนแต่เป็นบิ๊กแนมทางการเมืองแทบทั้งสิ้น แถมมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองสูง บรรดาข้าราชการเกือบทุกหน่วยงานต่างให้ความยำเกรง แม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดบางจังหวัดยอมสยบและพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งอะไรที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐเลย

เมื่อรัฐบาลเปิดเกมรุกให้ยึดที่ดินเขากระโดงคืน ลุยคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. ปี 2567 แบบสุดทาง เท่ากับว่าบทสรุปสุดท้ายทั้งสองคดี จะจบแบบยึดที่ดินคืนรัฐ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีต้องเดินคอตกเข้าคุก หากจบแบบนี้ วลีที่ว่า คุกมีไว้ขังคนจน จะถูกลบไปจากความทรงจำของคนทั้งประเทศ และจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญว่านับแต่นี้เป็นต้นไป ทุกคดีไม่ว่าผู้ต้องหาจะเส้นใหญ่มีอิทธิพลแค่ไหน เมื่อทำผิดจะต้องเดินคอตกเข้าคุกแบบเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไปที่กระทำผิด

ดังนั้นเมื่อความเท่าเทียมในการบังคับใช้กฎหมายบังเกิด เสมือนประตูแห่งความศิวิไลซ์ได้เปิดแง้มและรอวันที่จะเปิดกว้างอย่างเต็มที่ แต่ถ้าสองคดีจบลงแบบไร้คนผิด ที่ดินยังไม่ถูกยึดคืน ประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเรามองได้เพียงสถานเดียวว่าความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นคือปาหี่​ !!!