“นับแต่เกิดเหตุอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นครปฐม ร่วมกับฆราวาสและสีกากียักยอกเงินวัดนับร้อยล้าน ตามด้วยพระชั้นผู้ใหญ่เกือบ 20 รูป พัวพันกับสีกากีกอล์ฟ รวมถึงอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ พัวพันกับสีกากีหลายคน ใช้เงินบริจาคปรนเปรอนับร้อยล้าน“
ล่าสุดเกิดเหตุอื้อฉาวที่วัดพระบาทน้ำพุ ลพบุรี ทำให้พุทธศาสนิกชนรู้สึกคลางแคลงใจกับเงินที่บริจาคให้กับทั้งเจ้าอาวาสและผ่านบุคคลที่เจ้าอาวาสไว้วางใจ เพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยเอดส์นั้นใช้จริงตามเป้าหมายที่บริจาคหรือไม่? เพราะมีข่าวว่าเงินที่บริจาคตกหล่นไปเข้ากระเป๋าผู้เกี่ยวข้องกับวัด รวมถึงนำไปซื้อที่ดินนับพันไร่ใส่ชื่อบุคคลใกล้ชิดกับเจ้าอาวาส แทนการใช้ชื่อวัดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ข้อเท็จจริงเป็นประการใดต้องรอการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ
จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำข้อตกลงกับตำรวจในการชำระสะสางเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระสงฆ์ รวมถึงลุยตรวจสอบมูลนิธิและองค์กรกุศลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัด เพราะส่วนใหญ่ล้วนใช้องค์กรบังหน้าแสวงหาผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อกันเอง
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวมิได้มีเฉพาะในวัดเท่านั้น แต่กระจายตัวอยู่เกือบทุกจังหวัด มีทั้งทำงานด้วยจิตอาสาจริงๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับบริจาคถูกส่งถึงมือผู้ประสบภัย และทำงานแบบจิตอาสาประเภทส่วนรวมครึ่ง ส่วนตัวครึ่ง และบางหน่วยส่วนรวมแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัว 80 เปอร์เซ็นต์
สาเหตุหลักที่ทำให้มูลนิธิหรือองค์กรการกุศลผุดราวดอกเห็ดในฤดูฝนและเติบโตแบบรวดเร็ว มาจากบุคลากรหน่วยงานรัฐขาดศักยภาพในการบริหารจัดการ ตั้งแต่ระดับผู้นำหน่วยยันปลายแถว ที่ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม อย่างกรณีเกิดเหตุอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือตึกถล่ม ภาพแรกของการช่วยเหลือที่ได้เห็นคือมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลของเอกชนเข้าช่วยเหลือแล้ว กว่าที่หน่วยงานรัฐจะเข้าถึง ผู้ประสบภัยเกือบทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว
หรือกว่าที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือกรมบรรเทาสาธารณภัยฯ จะขยับ บางครั้งล่วงเลยแบบข้ามวัน การช่วยเหลือต่างๆ จึงส่งถึงมือผู้ประสบภัย
กลายเป็นช่องว่างให้เอกชนนำไปเป็นข้ออ้างในการจัดตั้งมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่างๆ ซึ่งการจัดการในระยะแรก คณะกรรมการฯ จะบริหารจัดการเป็นอย่างดี สร้างความพึงพอใจให้ชาวบ้านที่ได้รับความช่วยเหลือหรือชาวบ้านที่ไปขอความช่วยเหลือ
ครั้นพอเริ่มมีชื่อเสียง ประชาชนกล่าวขานถึง การเปิดรับบริจาคต่างๆ มีการสนองตอบจากสังคมเป็นอย่างดี ได้จำนวนเงินหรือทุนทรัพย์เพิ่มมากขึ้น คณะกรรมการฯ หรือประธานเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่น่าเชื่อถือ แต่ความรุ่งเรืองเสมือนดาบสองคม ถ้าใช้ในทางที่ผิดจะทำร้ายตัวเอง แต่ถ้าใช้ในทางที่ถูกตามเป้าวัตถุประสงค์การจัดตั้งจะก่อผลดีให้กับองค์กรและส่วนรวม
แต่ปัจจุบันหลายมูลนิธิหรือหลายองค์กรฯ ใช้ความมีชื่อเสียงไปแสวงหาผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อ คณะกรรมการฯ และประธานฯ บางมูลนิธิช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนหรือถูกกระทำแบบเลือกปฏิบัติ อาทิ เหยื่อไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือมูลนิธิแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เขตปริมณฑล พอเหยื่อเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ทางเจ้าหน้าที่จะรับเรื่องไว้ พอไปตามผลกลับเงียบ แต่มีเสียงตอบกลับว่าให้ไปร้องที่อื่น เพราะดูประเด็นแล้วไม่สามารถจูงใจให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวเป็นประเด็นใหญ่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประธานมูลนิธิได้
หรือบางองค์กรเมื่อรับเรื่องแล้ว จะพิจารณาถึงความเสียหายของเหยื่อแล้ว จะแจ้งว่ามีรายจ่ายอะไรบ้าง อาทิ ค่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ค่าใช้จ่ายให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าว ถ้าเป็นคดีความจะมีค่าว่าจ้างทนายความในเครือข่ายเพื่อสู้คดี
หรือถ้าเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในรูปแบบต่างๆ จะเปิดรับการบริจาค มีทั้งเงิน เครื่องอุปโภคและบริโภค องค์กรที่ประธานหรือคณะกรรมการฯ มีชื่อเสียงติดลมบนแล้ว ประชาชนจะแห่ไปบริจาคจำนวนมาก ได้ยอดเงินหลายล้านบาท
แต่ผู้บริจาคแทบจะไม่ได้ยินการแถลงจากมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่างๆ ที่ไปบริจาคเลยว่า เมื่อปิดรับบริจาคแล้วได้ยอดเงินเท่าไหร่ จ่ายให้ผู้ประสบภัยจำนวนเท่าใด ยอดเงินคงเหลือเท่าใด ถ้าจะได้รับทราบต่อเมื่อคณะกรรมการฯ หรือประธานขัดแย้งกันแล้วออกมาสาวไส้ให้สังคมรับทราบ หรือเกิดจากความอิจฉาของคู่แข่งออกมาแฉ ออกมาตั้งคำถามถึงเงินบริจาคถึงมือผู้ประสบภัยแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือเป็นแบบวัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง
ปรากฏการณ์การหาผลประโยชน์จากมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่างๆ กำลังเฟื่องฟูมาก คณะกรรมการฯ รวมถึงประธานฯ หลายองค์กรต่างร่ำรวย กินดีอยู่หรู บ้านมูลค่านับสิบล้าน ขับรถหรูและมีโลกหลายใบ
ดังนั้นเพื่อสกัดไม่ให้มูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่างๆ ที่ใช้ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ รัฐบาลต้องใช้กลไกกฎหมายตรวจสอบอย่างเข้มข้น ที่สำคัญ รัฐบาลจะต้องบริหารจัดการให้หน่วยงานทุกหน่วยมีความพร้อมในทุกด้าน เมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ พร้อมช่วยแบบฉับไว ถ้าทำได้จริงพวกผีปอบที่ใช้มูลนิธิหรือองค์กรการกุศลเป็นเครื่องมือหากินไม่กล้าเผยอหน้า!!!
