ในที่สุดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชา ปะทุขึ้นจนได้ เมื่อสมเด็จฮุน เซน ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวกัมพูชา สั่งทหารพุ่งเป้าถล่มไปที่บ้านเรือนคนไทย โรงพยาบาล และสถานที่ต่างๆ หวังจุดชนวนความแค้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ

ผลการกระทำของสมเด็จฮุน เซน เข้าข่ายผิดอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 เกี่ยวกับการคุ้มครองบุคคลพลเรือนในเวลาสงคราม ค.ศ. 1949 ระบุไว้ในข้อ 18 สรุปว่าการโจมตีโรงพยาบาลถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรง และการกระทำโดยเจตนาถือเป็นอาชญากรรมสงคราม พออนุมานได้ว่าผู้บังคับบัญชาที่สั่งการคืออาชญากร หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า “โจร” ดังนั้น ถ้าจะเปลี่ยนคำนำหน้านามสมเด็จฮุน เซน เป็น “โจรฮุน เซน” ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะพฤติกรรมโจรจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเองและพรรคพวก โดยไม่สนใจว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร รวมถึงละเมิดกติกาที่คนทั่วโลกยอมรับ
ซึ่งทราบกันดีว่าพฤติกรรมของโจรฮุน เซน มุ่งก่อความขัดแย้งกับไทย เพื่อกู้ศรัทธาจากชาวกัมพูชาให้กับตระกูลตัวเองที่ตกต่ำอย่างหนัก ด้วยการสร้างกระแสชาตินิยม เริ่มจากสร้างสถานการณ์ว่าไทยรุกล้ำดินแดน ปล่อยให้ทหารและคนกัมพูชาเข้ามาป่วนพื้นที่พิพาท รวมถึงการปล่อยคลิปเจรจาหลังไมค์กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ผู้นำทั่วโลกไม่ทำกัน แต่รัฐบาลไทยและประชาชนคนไทยไม่หลงกล ยังยึดแนวทางสันติวิธี ส่งผลให้โจรฮุน เซน กลายเป็นสุนัขจนตรอก งัดท่าไม้ตายสั่งให้ทหารกัมพูชายิงถล่มพลเรือนไทยอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตาย บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย ต้องทิ้งบ้านเรือนหนีภัยสงคราม
จากพฤติกรรมสุนัขจนตรอกของโจรฮุน เซน พอสันนิษฐานได้ว่าคงวางเป้าให้เกิดสงครามประชาชนทั้งในไทยและกัมพูชา ด้วยการสร้างความเจ็บแค้นให้กับคนไทย จากนั้นจะเกิดการตอบโต้ทำร้ายกัน แล้วโจรฮุน เซน จะรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ นั่งบนบัลลังก์อำนาจบนความย่อยยับของชาวบ้านทั้งสองประเทศ
หากจับกระแสในสื่อโซเชียลจะเห็นว่าข้อสันนิษฐานเริ่มปรากฏแล้ว โดยโจรฮุน เซน นำประเด็นอดีตนักมวยดัง โพสต์คลิปเดินทางไปร้านขายปลาสลิดแห่งหนึ่งพร้อมพวก ก่อนจะตบหน้าลูกจ้างชาวเขมรสองคน กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และอดีตนักมวยบอกว่า
“ประกาศนะ ถ้าทหารเขมรยิงใส่ประชาชนที่ไม่รู้เรื่อง พวกผมจะกระทืบชาวเขมรที่อยู่ในไทยให้ดู มาลองกันดูดิ ว่าพวกมึงเล่นสกปรก เดี๋ยวคนไทยจัดให้ ใครพร้อมบ้าง”
โจรฮุน เซน นำประเด็นดังกล่าวไปโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า เชิญฟังคำพูดของคนไทยที่ดูถูกและละเมิดแรงงานเขมรที่ทำงานในประเทศไทย ขอให้โปรดระวังกันมากๆ ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดแบบนี้ ในข่าวระบุว่า “หมอแล็บแพนด้า” เตือนว่า ฮุน เซน เค้าติดตามโซเชียลไทย การทำร้ายชาวกัมพูชาที่อาศัยในไทย จะทำให้เราดูแย่ในสายตาของประเทศอื่น ทำให้การปั่นกระแสรักชาติของพวกเขาง่ายขึ้น เห็นมะ พอเราทำปุ๊บ ฮุน เซน รีบงับมาโพสต์เลย
ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวช่วงดึกเวลา 02.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม กลุ่มช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนและปอยเปตนำคลิปคนไทยถูกกัมพูชารุมทำร้าย หลังแพร่คลิปคนไทยไปหาเรื่องคนกัมพูชาในโซเชียล ทำให้คนกัมพูชาเกิดความโมโห ที่หน้าคาสิโนในปอยเปตมีคนไทยโดนทำร้าย ขอเตือนคนไทยอย่าออกไปนอกสถานที่เด็ดขาด คลิประบุว่าคนไทย 2 คนถูกทำร้ายโดยวัยรุ่นเขมรรุมเก็บยอด มีการแจ้งเตือนว่าอย่าไปไหนเด็ดขาด พวกมันขับมอเตอร์ไซค์กันมากว่า 50 คัน ตามล่าหาคนไทย ใครคนไทยมันใส่หมด และมีการโพสต์ต่อว่าในไพลิน คนไทยโดนกัมพูชาทำร้าย
ดังนั้นไม่ว่าการยิงตอบโต้ตามยุทธวิธีของทหารจะจบลงแบบไหน เมื่อใด สุดจะคาดเดา แต่ที่ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ รัฐบาลไทยต้องวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น เพราะอย่าลืมว่าชาวกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทย ทั้งถูกต้องตามกฎหมายและลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมายสูงเฉียดล้านคน ทั้งทำธุรกิจ ขายแรงงาน ขอทาน และนักศึกษา หากโจรฮุน เซน และพรรคพวกใช้สื่อโซเชียลปลุกกระแสสร้างสถานการณ์ว่าคนไทยในกัมพูชาถูกทำร้าย หรือตั้งแก๊งไล่ล่าเหมือนปอยเปต รวมถึงระดมยิงถล่มพลเรือนไทยเป็นระยะๆ สามารถจะสร้างความเจ็บแค้นให้กับคนไทย กลายเป็นแรงจูงใจรวมกลุ่มกันไปทำร้ายคนกัมพูชาในไทย จะกลายเป็น “ผึ้งหยดเดียว” ทำให้คนกัมพูชาในไทยรวมตัวกันสู้กลับ อาจเกิดจราจลถึงขั้นที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ โอกาสที่จะทำร้ายถึงขั้นบาดเจ็บและชีวิตมีสูง กลายเป็นช่องโหว่ให้โจรฮุน เซน เก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างสบายใจเฉิบ
หมากเกมนี้ ถ้ารัฐบาลไทยและกองทัพไม่หยุดความอหังการของโจรฮุน เซน โดยเร็ว เมืองไทยอาจจะกลายเป็นแดนมิคสัญญีได้ ถ้าความขัดแย้งยังยืดเยื้อ รัฐบาลจะต้องหามาตรการป้องกัน คุมเข้มไม่ให้คนไทยและคนกัมพูชาในไทยปะทะกัน
ที่สำคัญ คนไทยต้องไม่ติดกับดักของหมากเกมนี้ ด้วยการเสพข่าวอย่างมีสติ ไม่ตกเป็นเหยื่อของสื่อโซเชียลทั้งไทยและกัมพูชาที่ปั่นกระแสให้คนทั้งสองชาติชังกัน แล้วคอยเก็บผลประโยชน์บนซากศพของคนไทยและคนกัมพูชา!!!


