ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอพาคุณมาทำความรู้จักกับหนึ่งในความมหัศจรรย์แห่งพงไพร “ม้าวิ่ง” หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ ฟาเลโนพซิส พัลเคอร์ริมมา กล้วยไม้ป่าที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวย แต่ยังเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ

“ม้าวิ่ง” กล้วยไม้อิงอาศัยบนลานหิน
“ม้าวิ่ง” เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยที่มักพบขึ้นอยู่บนโขดหิน โดยมีรากขนาดใหญ่แข็งแรงยึดเกาะไว้ ลำต้นของมันสั้นกะทัดรัด แต่โดดเด่นด้วยใบที่มีรูปร่างหลากหลาย ตั้งแต่รูปขอบขนาน รูปรี ไปจนถึงเกือบกลม ขนาดประมาณ 4×6 เซนติเมตร ปลายใบมีทั้งแบบแหลม มน หรือแม้กระทั่งเว้าบุ๋ม
สิ่งที่ทำให้ “ม้าวิ่ง” มีเสน่ห์ไม่เหมือนใครคือช่อดอกที่มักมีมากกว่าหนึ่งช่อ ดอกมีขนาดเล็กน่ารักเพียง 1 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกเป็นรูปรี มีสีสันไล่เฉดตั้งแต่ขาวอมม่วงไปจนถึงม่วงแดง ปลายกลีบมน และเมื่อบานเต็มที่ก็จะพลิ้วไหวลู่ไปด้านหลัง ชวนให้นึกถึงม้าที่กำลังวิ่งทะยานสมชื่อ

เอกลักษณ์ที่สำคัญของ “ม้าวิ่ง” คือ กลีบปาก ที่มีรูปทรงเฉพาะตัว มีหูปากค่อนข้างกลม โคนกลีบมีติ่งแหลมเล็ก ๆ และปลายกลีบมนพร้อมสันตื้น ๆ ซึ่งเป็นจุดสังเกตสำคัญที่นักพฤกษศาสตร์ใช้ในการจำแนกชนิด
กล้วยไม้ “ม้าวิ่ง” มีการแพร่กระจายกว้างขวางในเทือกเขาหิมาลัยของจีน, อัสสัม, อินเดีย, เมียนมาร์, ไทย, มาเลเซีย, ลาว, กัมพูชา, ยูนนาน (จีน), เวียดนาม, บอร์เนียว และสุมาตรา
ในประเทศไทย กล้วยไม้ชนิดนี้ถูกสำรวจพบครั้งแรกที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จังหวัดระนอง บริเวณความสูงจากระดับน้ำทะเล 50 – 600 เมตร โดยจะพบได้ในพื้นที่โล่ง ลานหิน และกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของไทย
“ม้าวิ่ง” จะอวดโฉมความงามของดอกในช่วงเดือน มิถุนายน – พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวและนักธรรมชาติวิทยาจะได้ชื่นชมความสวยงามตามธรรมชาติของมัน

แม้ความสวยงามของ “ม้าวิ่ง” จะดึงดูดใจให้หลายคนอยากนำมาครอบครอง แต่กล้วยไม้ป่าเหล่านี้มีความเปราะบางและต้องการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อการดำรงชีวิต การนำกล้วยไม้ป่าออกจากถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ เป็นการทำลายระบบนิเวศและลดจำนวนประชากรของพืชชนิดนั้น ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ได้
ฟาเลโนพซิส พัลเคอร์ริมมา — เสียงเบา ๆ จากป่าลึก ที่ฝากไว้ให้เราฟังด้วยหัวใจอนุรักษ์
ที่มา: ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุทยานแห่งชาติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

