“สำเภางาม” อัญมณีกล้วยไม้ไทยแห่งภูหลวง งามล้ำค่าด้วยเรื่องราวและสายพันธุ์เฉพาะถิ่น

1007

“สำเภางาม” กล้วยไม้ดินขนาดใหญ่ ถือเป็นพรรณไม้เกียรติประวัติไทยอย่างแท้จริง ด้วยเรื่องราวการค้นพบและการจำแนกสายพันธุ์ที่น่าสนใจ

ในอดีตกล้วยไม้ชนิดนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ ซิมบิเดียม อินซิกเน โดยโรล์ฟ แต่ด้วยความใส่ใจและเชี่ยวชาญของ ดร.ฟิลลิป เจมส์ คริบบ์ จากสวนพฤกษศาสตร์คิว ประเทศอังกฤษ ท่านพบว่ากล้วยไม้ที่พบในไทยมีความแตกต่างจากซิมบิเดียม อินซิกเน ที่พบในเวียดนามอย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้ เพื่อยกย่องและเชิดชู ดร.กุนนาร์ ไซเดนฟาเดิน อดีตเอกอัครราชทูตและนักพฤกษศาสตร์ชาวเดนมาร์ก ผู้บุกเบิกการศึกษากล้วยไม้ป่าของไทยมาอย่างยาวนาน ดร.คริบบ์ จึงได้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ใหม่ให้เกียรติท่านว่า ซิมบิเดียม ไซเดนฟาเดนไอไอในหนังสือ พรรณพฤกษชาติประเทศไทย เล่มกล้วยไม้ 12(2) ปี พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014)

สำเภางามเป็นกล้วยไม้ดินที่มีหัวเทียมรูปไข่ ใบเดี่ยวเรียงซ้อนกัน 4–6 ใบ แต่ละใบยาวได้ถึง 1 เมตร ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจะตั้งตรงหรือโค้งเล็กน้อย ความยาว 1–1.5 เมตร แต่ละช่อมีดอกมากถึง 10–25 ดอก

ดอกของสำเภางามมีเสน่ห์ดึงดูดใจด้วยกลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาวที่แต่งแต้มด้วยแถบหรือจุดประสีแดงอมชมพูบริเวณโคนและกลางกลีบ ส่วนกลีบปากมีสีสันที่หลากหลาย ตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีแดงอมชมพูเข้ม บางดอกอาจมีแถบหรือจุดประสีแดงอมชมพูกระจายทั่ว หรือมีแต้มสีเหลืองสดใสอยู่กลางกลีบ ปลายกลีบปากแหลมม้วนลง และมีสัน 2 สันที่โคนกลีบ พร้อมขอบกลีบที่เป็นคลื่นเล็กน้อย เพิ่มความพลิ้วไหวให้กับดอก หูกลีบปากทั้งสองข้างมีลักษณะกลมมนและตั้งขึ้น ผลของสำเภางามเป็นแบบผลแห้งแตก มีรูปร่างกลมหรือทรงกระสวยแกมขอบขนาน ยาวประมาณ 4–5 ซม.

ถิ่นกำเนิดและการออกดอก: อัญมณีแห่งภูหลวง
สำเภางามเป็นพืชถิ่นเดียวของไทย คุณจะพบความงดงามนี้ได้ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย กล้วยไม้ชนิดนี้เติบโตได้ดีตามลานหินทรายและพื้นที่เปิดโล่งในป่าละเมาะเขาต่ำและป่าไม้สนเขา ที่ระดับความสูง 1,000–1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกสำเภางามคือระหว่าง เดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่กล้วยไม้ชนิดนี้จะอวดความงามของดอกที่มีความผันแปรของสีค่อนข้างสูง ทำให้แต่ละดอกมีความพิเศษไม่ซ้ำใคร

นี่คือข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “สำเภางาม” (ซิมบิเดียม ไซเดนฟาเดนไอไอ) กล้วยไม้ไทยที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวและคุณค่าทางพฤกษศาสตร์ หากคุณมีโอกาสเดินทางไปเยือนภูหลวง อย่าลืมมองหาความงามของกล้วยไม้ชนิดนี้!