ศึกเลือกนายก อบจ. 1 กุมภาฯ ผลแพ้-ชนะสะท้อนเครดิต”แม้ว”

1194

 “     เชื่อว่าคอการเมืองคงเห็นตรงกันว่าการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.)ครั้งนี้มีสีสันชวนติดตามกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา

      โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร พ่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งฉายาตัวเองว่าส.ท.ร.(เสือกทุกเรื่อง) ออกโรงเดินสายหาเสียงให้กับผู้สมัครนายกอบจ.สังกัดพรรคเพื่อไทย ทั้งภาคเหนือและภาคอีสานหลายจังหวัด ทุกเวทีที่ขึ้นปราศรัยจะมากด้วยสีสัน สื่อกระแสหลักทุกสำนักต้องส่งผู้สื่อข่าวจากส่วนกลางไปติดตามทำข่าวทุกเวที เพื่อไม่ให้พลาดประเด็นสำคัญ

       ทุกจังหวัดที่นายทักษิณ เดินทางไปจะกลบกระแสพรรคอื่นไปโดยปริยาย โดยเฉพาะพรรคประชาชนคู่แข่งสำคัญ ที่สื่อนำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวน้อยมาก แม้เนื้อหาการปราศรัยจะชวนติดตามแต่ถูกรัศมีนายทักษิณบดบังแทบจะไร้แสง

       หากจับอาการของนายทักษิณในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ดูเหมือนจะเล่นเกินราคาจ้างร้อยเล่นล้าน เพราะทุกเวทีจะพูดถึงการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรบ้าง อาทินโยบายปราบปรามยาเสพติดถึงขั้นประกาศว่าทักษิณมาแล้วพ่อค้ายาหลบไป ต้องปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ราบคาบ ด้วยการประสานกับผู้นำเมียนมาและกัมพูชาช่วยจัดการให้ รวมถึงผู้อิทธิพลต้องจัดการแบบเด็ดขาด

     ทุกเวทีนายทักษิณ จะให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยพูดนำทางก่อนแล้วรัฐบาลจะนำไปปฏิบัติตามเสมอ อาทิ การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับประชาชนที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไปที่มีคุณสมบัติตรงตามที่รัฐบาลกำหนดพร้อมบอกวันโอนเงิน ก่อนที่รัฐบาลจะแถลงให้ทราบด้วยซ้ำ

      ล่าสุดเวทีจังหวัดเชียงรายนายทักษิณ บอกว่าปี 2540 เศรษฐกิจพังเฉพาะส่วนบน แต่วันนี้พังทั่วประเทศ รายได้พี่น้องหายไปหมดธนาคารพาณิชย์กำไร 14 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่จีดีพีโต 3 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไม่สมดุลบริหารผิดพลาดอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง

     “ 3ปีนี้ผมทุ่มเต็มที่ทั้งกำลังกายกับสมอง พรรคเพื่อไทยจะระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาให้พี่น้องคนไทย เอาให้มันฟื้นและรุ่งเรืองเหมือนตอนที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยผมอัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจไวสุด งบประมาณสมดุลถึงสองปี ตอนนี้งบประมาณขาดดุลต่อเนื่องเป็นหนี้มากมาย หนี้ประชาชน หนี้ครัวเรือน หนี้ประเทศจำนวนมาก จากนี้ไป 3 ปีพี่น้องจะเฟื่องฟูเหมือนเก่า”นายทักษิณระบุ

      นอกจากปราศรัยถึงแนวนโยบายของรัฐบาลแล้วนายทักษิณ ได้อ้อนขอคะแนนให้เลือกผู้สมัครนายก อบจ.จากพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นแขนขาและกำลังหลักให้รัฐบาลพัฒนาจังหวัดให้ก้าวหน้าในทุกๆด้าน

         เมื่อดูบทบาทที่นายทักษิณแสดงออกบนทุกเวที มองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากจะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นหัวหน้ารัฐบาลแบบตัวจริงเสียงด้วย เพราะประเด็นที่ปราศรัยเพียงชั่วข้ามวันบรรดารัฐมนตรีขานรับไปปฏิบัติแล้ว ถ้ามองอย่างวิเคราะห์พอประเมินได้ว่านายทักษิณกำลังใช้แนวทางเดียวกับสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีนั่นคือการบริหารแบบรวมศูนย์ด้วยการดึงนายกอบจ.ในสังกัดขึ้นตรงต่อส่วนกลาง ทั้งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เพื่อง่ายต่อการสั่งการแก้ไขปัญหาให้บรรลุเป้าหมาย

   แต่หากมองในบทบาทที่นายทักษิณ รับโจทย์มาเพื่อแก้ปัญหาของประเทศทั้งมิติการเมืองและมิติเศรษฐกิจ การเดินสายปราศรัยหาเสียงนายกอบจ.พออนุมานได้ว่านายทักษิณกำลังเล่นแบบเทหมดหน้าตัก เพราะทุกเวทีเนื้อหาจะมุ่งเน้นถึงแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศหลัก เนื่องจากนายทักษิณอาจประเมินแล้วตลอดเวลาปีว่านับแต่ยุคนายเศรษฐา ทวีสิน มาสู่ยุคของ น.ส.แพทองธาร นโยบายของรัฐบาลไม่ได้ถูกนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง จนต้องมาเล่นบทนำหน้ารัฐบาลเพื่อกระตุ้นข้าราชการและรัฐมนตรีให้เดินหน้าทำงาน เพื่อแก้โจทย์ให้สำเร็จ

       ขณะเดียวกันจะเป็นการวัดพลังมวลชนทางการเมืองของนายทักษิณ โดยสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่นายทักษิณไปปักธงไว้หลายจังหวัดอาทิ เชียงใหม่ เชียงราย นครพนมและศรีสะเกษ เป็นต้น

        ถ้าจังหวัดไหนที่ไปอ้อนขอคะแนนไว้แล้วพ่ายเลือกตั้ง แม้เพียงจังหวัดเดียวพอที่จะเป็นดัชนีวัดได้ว่าเครดิตทางการเมืองของนายทักษิณเริ่มถดถอย ชื่อนายทักษิณไม่ขลังเหมือนเก่า เมื่อถึงเวลาหนึ่งโอกาสที่จะถูกลดบทบาทมีสูง แต่ถ้าทุกจังหวัดที่ไปปักธงไว้ชนะแบบทิ้งห่าง นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยจะเป็นเสมือนพยัคฆ์ติดปีก สามารถเดินหน้าบริหารจัดการประเทศแบบไร้กังวล

     ดังนั้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ต้องตามลุ้นกันว่านายทักษิณและพรรคเพื่อไทย จะเป็นพยัคฆ์ติดปีกหรือไม่ !?!