ตร.ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามการแข่งรถหรือการรวมกลุ่มในทางสาธารณะ

89

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามการแข่งรถหรือการรวมกลุ่มในทางสาธารณะ

วันที่ 15 มกราคม 2568 ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท ที่ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท. สำราญ นวลมา. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามการแข่งรถหรือการรวมกลุ่มในทางสาธารณะ และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยโดยสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ใช้ทาง

กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น.กองบังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนคร โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร., พ.ต.อ.จามร ทองพรรณ รอง ผบก.จร., พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผกก.2 บก.จร., พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร., พ.ต.ต.ภุชงค์ เม้าทุ่ง สว.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ ทางพิเศษ กก.2 บก.จร.

ได้ร่วมกันทำการจับกุม
1.นายสุเทพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี
2.นายชัยพิสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
3.นายปภินวิช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี
4.นายขวัญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี
5.นายณรงค์ฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี
พร้อมของกลาง
1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda ลีด สี แดง ทะเบียน 8ขฏ 2319 กทม.
2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda จีออโน่ สี เขียว ทะเบียน 7ขท 3242 กทม.
3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda ลีด สี กรม ทะเบียน 7ขฒ 2392 กทม.
4.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda จีออโน่ สี ขาว ทะเบียน 7ขต 456 กทม.
5.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda ฟอซ่า สี ขาว ทะเบียน 8ขพ 23 กทม.
6.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda ลีด สี ขาว ทะเบียน 8ขพ 9439 กทม.

โดยมีพฤติการณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามการแข่งรถหรือการรวมกลุ่มในทางสาธารณะ และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยโดยสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ใช้ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ พบกลุ่มรถจักรยานยนต์แข่งรถในทางสาธารณะประลองความเร็วรถกัน และขับขี่ในท่าหมอบ พร้อมทดสอบสมรรถนะเครื่องรถจักรยานยนต์ ขับขี่ส่ายไปส่ายมาเต็มทุกช่องทางทำให้รถประชาชนไม่สามารถขับขึ้นมาแซงได้ ในลักษณะเร่งเครื่องส่งเสียงดัง ขับด้วยความเร็วสูง อันเป็นการขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยสร้างความเดือนร้อนให้แก่ผู้ใช้ถนนวิภาวดีซึ่งมีผู้ร่วมใช้ทางจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจและติดตามกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่มีเผยแพร่และแชร์จำนวนมากในกลุ่มที่ชอบแต่งรถจักรยานยนต์และกลุ่มเด็กแว้น พบว่ากลุ่มดังได้มีการนัดรวมกลุ่มกัน 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 และวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ได้มีการนัดรวมกลุ่มที่ปั๊ม แล้วออกไปแข่งประลองความเร็วกันบนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งได้โพสต์คลิปวีดีโอทั้ง 2 วัน มีผู้เข้าชมรวมกว่า 200,000 ครั้ง มีผู้ติดตามเพจจำนวนกว่า 20,000 คน โดยมี โดยมี นายชัยพิสิทธิ์ฯ และนายณรงค์ฤทธิ์ฯ เป็นคนโพสต์คลิปวีดีโอซึ่งเป็นคลิปรถจักรยานยนต์ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่ากลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มช่างแต่งรถจักรยานยนต์ และกลุ่มนักแข่งรถจักรยานยนต์ ทำการแต่งรถแล้วจะนำมาทดสอบสมรรถนะเครื่องโดยประลองความเร็วกัน พร้อมถ่ายคลิปลงในสื่อออนไลน์ เพื่อให้ได้ลูกค้ามาใช้บริการแต่งรถที่ร้านเพิ่ม และดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการแต่งรถที่ร้านของตนมากขึ้น ซึ่งมีนายขวัญฯ และนายณรงค์ฤทธิ์ฯ เป็นเจ้าของร้านแต่งรถจักรยานยนต์ดังกล่าว โดยมีการนัดหมายเพื่อแข่งรถในทาง และมีการดัดแปลงหรือปรับแต่งรถให้มีสภาพไม่ถูกต้องจากเครื่องยนต์ปกติ เพื่อให้มีสมรรถนะเครื่องรถจักรยานยนต์เร็วและแรงขึ้น มาขับแข่งประลองความเร็ว กันในถนนวิภาวดีรังสิตทั้งขาเข้าและขาออก ด้วยความเร็วสูงและขับขี่ในท่าหมอบซึ่งเป็นการขับขี่ที่ผิดปกติวิสัย อันเป็นการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจร พร้อมกันนี้กลุ่มดังกล่าว ยังเคยมีออกมารวมกลุ่มแข่งรถจักรยานยนต์จนกระทั่งมีบุคคลในกลุ่มเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันในกลุ่มทำให้มีผู้เสียชีวิตไป

ต่อมาวันที่ 12 มกราคม 2568 ภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ ออกหมายเรียกจำเลยทั้งห้าคน มาพบพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหา ผู้ต้องหาที่ 1-5 “ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น, ร่วมกันแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจร”

วันที่ 14 มกราคม 2568 ศาลแขวงพระนครเหนือ พิพากษา ให้จำเลยที่ 1 จำคุก 2 เดือน(เนื่องจากจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนจึงโทษไม่รอลงอาญา),จำเลยที่ 2,3,4 จำคุก 4 เดือน ปรับ 5,000 บาท, จำเลยที่ 5 จำคุก 2 เดือน ปรับ 2,500 บาท โทษจำรอลงอาญา 2 ปี, คุมประพฤติ 1 ปี, รายงานตัว 3 ครั้ง, บริการสังคม 24 ชม. และพักใช้ใบขับขี่ จำเลยที่ 2,4,5 (3เดือน), ริบรถจักรยานยนต์ของกลางทุกคัน

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ตร.