กรมศุลกากรตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า ก๊าซไนตรัสออกไซด์ และตู้แลกเหรียญอัตโนมัติ

103

กรมศุลกากรตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า ก๊าซไนตรัสออกไซด์ และตู้แลกเหรียญอัตโนมัติ มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท

วันนี้ (วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2567) เวลา 14.30 น. นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร และนางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าว “กรมศุลกากรตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า ก๊าซไนตรัสออกไซด์ และตู้แลกเหรียญอัตโนมัติ มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท” ณ ศูนย์แถลงข่าว อาคาร 1 ชั้น 2 กรมศุลกากร คลองเตย

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษก กรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด ด้านกระทรวงการคลัง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จึงขานรับนโยบายและสั่งการให้กรมศุลกากรเข้มงวดกวดขันในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเฝ้าระวังและเร่งปราบปรามผู้กระทำความผิด จับกุมผู้ลักลอบนำเข้าและผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า – อุปกรณ์ส่วนควบอย่างจริงจัง เด็ดขาด และต่อเนื่อง รวมถึงบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ตลอดจนบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อสืบสวนหาข่าวลักลอบการนำเข้า

โดยเมื่อวันที่ 17 และ 19 ธันวาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ได้ทำการตรวจสอบสินค้านำเข้าจากประเทศจีน จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ผลการตรวจสอบพบสินค้าที่ไม่ได้แสดงในใบขนสินค้า รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ได้แก่

  1. บุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 112,600 ชิ้น มูลค่า 28.15 ล้านบาท ซึ่งของดังกล่าวเป็นของต้องห้ามนำเข้าตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า
    เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ออกตามความในพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
  2. ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (ก๊าซหัวเราะ) บรรจุในกระบอกอัดก๊าซ น้ำหนัก 5 กิโลกรัม/กระบอก ปริมาณรวม 770 กระบอก มูลค่า 1.925 ล้านบาท ซึ่งของดังกล่าวจัดเป็นของที่ต้องได้ใบอนุญาตการนำเข้า
    จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตรา 4 (4) วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับ
    ให้เกิดผลแก่สุขภาพ โครงสร้าง หรือการกระทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์ ประกอบมาตรา 12
  3. ตู้แลกเหรียญอัตโนมัติ (coin changer) ปริมาณรวม 18 ตู้ มูลค่า 360,000 บาท

กรณีนี้เป็นความผิดฐานนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยการแสดงข้อมูลซึ่งเกี่ยวกับการเสียอากร ไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์เพื่อหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม และข้อจำกัด อันเป็นความผิดตามมาตรา 202 243 244 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 รวมถึงพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตรา 4 (4) ประกอบมาตรา 12 และพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ทั้งนี้ โฆษกกรมศุลกากรกล่าวต่ออีกว่า “สำหรับสถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 23 ธันวาคม 2567) จำนวน 103 ราย ปริมาณ 416,560 ชิ้น มูลค่า 39.07 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรมศุลกากรขอย้ำเตือน ให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก โดยกรมศุลกากรจะดำเนินการตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องสังคมและผลประโยชน์ของประเทศต่อไป ”

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#กรมศุลกากร#ข่าวอาชญากรรมวันนี้