ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รรท.ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ไทรโยก ควบคุมนายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ อส.ออย ผู้ต้องหาล่าหมีขอ และนายตาต้า ชาวกระเหรี่ยง มือยืงหมีขอ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย เขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่ง
ชาติ (รองผบ.ตร.) เพื่อให้สอบปากคำเพิ่มเติมหลังเมื่อค่ำวานนี้ตำรวจ สภ.ไทรโยค ได้ควบคุมตัว นายตาต้าและสอบปากคำเบื้องต้น รวมทั้งนำตัวไปชี้จุดยิงหมีขอ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวภายหลังการสอบปากคำ ว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายตาต้าให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิงหมีขอตกลงมาจากต้นไม้จริง จากนั้นนำไปที่จุดชำแหละ โดยมีนายจีระ ไม่ทราบนามสกุล สัญชาติเมียนมา เป็นคนชำแหระ และมี อส.ออย เป็นผู้นำซากสัตว์ไปทิ้งลงน้ำบริเวณลำห้วย โดยวันที่เกิดเหตุมีชาย 2 คนในแก๊งปลัดอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ จึงทำให้ขณะนี้มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 14 ราย สามารถจับกุมตัวได้ 13 ราย เหลือผู้ต้องอีก 1 รายที่ยังต้องติดตามตัวคือนายจีระ ชาวอำเภอทองผาภูมิ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเด็กที่มากับคณะตำรวจไม่ได้ดำเนินคดีกับเด็ก ที่เป็นผู้นำปืนจากผู้ต้องหากลับมาไว้ที่บ้าน เพราะตามกฎหมาย ป.วิอาญา ไม่สามารถดำเนินคดีกับเด็กได้ แต่กระบวนการสอบสวนสอบปากคำจะต้องดำเนินต่อไป
“ส่วนประเด็นที่มีการนำเสนอว่าตนเองสั่งให้ดำเนินคดีกับเด็ก เป็นการเข้าใจผิด เพราะกฎหมายยกเว้นโทษสำหรับเด็ก ไม่ทราบว่ามีการนำเสนอข่าวลักษณะนี้ได้อย่างไร อยากให้สื่อมวลชนศึกษาให้ดีก่อนนำเสนอข่าว เพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย” รองผบ.ตร. กล่าว
ขณะที่ตอนนี้ตำรวจได้พยานหลักฐานเกือบครบถ้วนแล้ว มีวัตถุพยานทั้งหมด 15 รายการ รวมถึงปลอกกระสุนปืน และซากสัตว์ และได้สั่งให้ไปหาศีรษะหมีขอ ที่นายตาต้า อ้างว่านายจีระนำไปทิ้งในลำห้วย ส่วนบริเวณส่วนกรามของหมีขอได้โยนให้สุนัขที่สำนักสงฆ์ฯกิน นอกจากนี้ให้หาคราบเลือดของหมีขอในจุดเกิดเหตุ แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมา อาจจะทำให้คราบเลือดหายไป และขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจดีเอ็นเอจากซากสัตว์ป่า ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่
รองผบ.ตร. กล่าวอีกว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนและอัยการจะสามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ทุกคน ทุกข้อหา ยกเว้นนายจีระ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนการที่นายตาต้ารับสารภาพว่าเป็นผู้ยิง จะทำให้ผู้ต้องหารายอื่นๆ รับโทษน้อยลงหรือไม่นั้น ตนตอบไม่ได้ เป็นดุลยพินิจของศาล และยืนยันว่าหมีขอจะไม่ตายฟรี เนื่องจากมีพยานวัตถุ พยานบุคคล ครบถ้วน สามารถทำให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหามีการกระทำความผิดจริง มั่นใจจะเอาผิดได้ทุกคน ทุกข้อหา
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมในประเด็นที่สังคมสังสัยว่ามีเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชี้เป้าให้กลุ่มผู้ต้องหายิงหมีขอหรือไม่ และจะสอบสวนว่ามีเจตนาเข้ามายิงหมีขอแต่แรกหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา รวมถึงร้านค้าที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าซื้อวัตถุดิบมาประกอบภายในอุทยาน