ที่สภ.ไทรโยค จว.กาญจนบุรี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พนักงานสอบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน , เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไทรโยค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมติดตามเร่งรัด การจับกุมดำเนินคดี นายวัชรชัย สมีรักษ์ อดีตปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย กับพวก 11 คน ผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกับนายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์ ลุงของ นายวัชรชัย เพิ่มเติม พร้อมควบคุมตัวมาสอบปากคำ เบื้องต้น นายสมเกียรติ ให้การอ้างว่าได้ติดรถร่วมไปกับกลุ่มออฟโรดเพื่อไปทำบุญที่สำนักสงฆ์เหมืองเต่าดำเท่านั้น แต่ยอมรับว่าไม่ได้มีการขออนุญาตเข้าพื้นที่
ขณะที่ พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค กล่าวว่าได้สอบปากคำแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหารวม 12 คน และมีการสอบปากคำพยานแล้ว 5 ปาก ตรวจยึดอาวุธปืนของกลาง รถยนต์ ภาชนะ ขวดพลาสติกต่างๆรวม 15 ชิ้น ไว้ตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะดำเนินตรวจแล้วเสร็จประมาณ 1 เดือน ส่วนการสอบปากคำ นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ อส.ออย.ในผู้ต้องหาที่ได้เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ยอมรับว่า ได้เข้าไปที่สำนักสงฆ์เหมืองเต่าดำในเขตอุทยานฯไทรโยค เพื่อไปทำบุญและไปตั้งแคมป์ก่อนจะชวนนายตาต้า ชาวกระเหรี่ยง เข้าป่าเพื่อไปยิงไก่ป่า แต่เจอหมีขอ นายตาต้า จึงใช้อาวุธปืนลงมือยิง
โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร การเข้าประเทศ หรือหมายเลขพาสปอร์ต เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบ จ.ส.อ.อดุลย์ นายทหารนอกราชการ ที่ อส.อนุสรณ์ อ้างว่าเป็นเจ้าของอาวุธปืนไรเฟิล .22 ได้นำมาฝากำว้เป็นหลักประกัน ในการยืมเงิน 10,000 ว่าเข้าข่ายการค้าอาวุธปืนเถื่อนหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้มีการตรวจ ดีเอ็นเอ, ลายนิ้วมือไว้เรียบร้อยแล้ว รอการส่งตรวจคราบเขม่าดินปืนตรวจสอบแล้ว
สำหรับรถยนต์ทั้งหมด 6 คัน เจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด และจากการตรวจสอบพบว่า มี 2 คัน ที่ข่ายเข้าข่ายความผิดฐานดัดแปลงสภาพรถโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยอมรับว่าการทำคดีหมีขอ ยากกว่าคดีเสือดำ เนื่องจากว่าคดีนี้ไม่มีรูกระสุนปืน และซากสัตว์ไม่สามารถรวมเป็นตัวได้ ซึ่งแตกต่างจากคดีเสือดำ ที่มีรูกระสุน เนื้อ และหนังประกอบเป็นตัวเสือได้ ดังนั้นพนักงานสอบสวน จึงต้องเร่งค้นหาซาก และตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี เพื่อให้มีน้ำหนักเพียงพอเพราะขณะนี้มีเพียงคำรับสารภาพจากผู้ต้องหาว่าล่าสัตว์เท่านั้น แต่ยืนยันจะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการได้ภายใน 48 วัน ส่วนการติดตามตัว นายตาต้า และนายจิระ สองชาวกระเหรี่ยงที่เป็นเด็กดูแลสำนักสงฆ์ มั่นใจว่าติดตามตัวมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
มีรายงานว่าชุดสืบสวนของ สภ.ไทรโยค ว่าจนถึงขณะนี้นายตาต้า ชาวกระเหรี่ยง ยังไม่เดินทางออกนอกไปประเทศไทย ล่าสุดพบเบาะแสว่า หลบหนี่และเคลื่อนอยู่แถบตะเข็บชายแดนไทย-พม่า โดยคาดจะสามารถจับตัวได้เร็วๆนี้ ซึ่งหากว่าควบคุมตัวได้จะนำตัวผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกระทำความผิด รายนี้มาสอบสวนขยายผลต่อไป
