โฆษก ตร.เผย ผบ.ตร.สั่งทำคดี สจ.โต้ง ตรงไปตรงมาเด็ดขาดยุติธรรม เตรียมพิจารณากรณีภรรยาร้องขอโอนสำนวนให้กองปราบ – สั่งสอบตำรวจพื้นที่ทำตัวเป็นลูกสมุนนักการเมืองผู้มีอิทธิพล ลั่นพบพฤติกรรมไม่เหมาะสมฟันวินัยและอาญาไม่มีละเว้น
วันที่ 13 ธ.ค.67 เวลา 15.30น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยกรณี น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้าน ของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อคืนวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และทนายนิติศักดิ์ มีขวด เข้ายื่นหนังสือขอโอนสำนวนคดีการตายของ สจ.โต้ง มาที่กองบังคับการปราบปรามเนื่องจากเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ว่าคดีนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะต้องดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและเด็ดขาดยุติธรรม คาดว่าจะมีการพิจารณาในเรื่องที่ร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว พร้อมระบุ ผบ.ตร.ยังได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้าไปดูเรื่องคดี เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติและสั่งการให้ผู้บัญชาการภาคต่างๆและผู้บังคับการตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเด็ดขาดกับผู้มีอิทธิพล หรือมีการกวาดล้างอาวุธเพื่อไม่ให้เกิดความไม่สงบในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่อาจจะมีการเลือกตั้งต่างๆ จึงขอให้ประชาชนได้มั่นใจว่าตำรวจดำรงตนอยู่ในความยุติธรรมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกมิติเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดทุกกรณี
โฆษก ตร.กล่าวย้ำว่าแม้คดีนี้จะเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและการเมืองท้องถิ่น แต่ยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินการด้วยความยุติธรรม โดยไม่สนใจเป็นใครหรือเป็นมาอย่างไรแต่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีตำรวจในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้องและเป็นลูกน้องของ สจ.โต้ง นั้น ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตรวจสอบให้ครบถ้วนทุกมิติว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในด้านไหนบ้างแม้จะไม่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดแต่หากพบมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็จะต้องดำเนินการทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
ด้่าน “โกทร” ด่านักข่าวบ้าบอ ฆ่าทำไม ช่วยเหลือตลอด เคลียร์ปมการเมืองจบแล้ว ตอบสั้นว่าใช้ “สจ.โต้ง”ทะเลาะ “กอล์ฟ ลูกน้อง” ขณะนำ 7 ผู้ต้องหาฝากขัง
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.40 น. พนังงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี คุมตัว 7 ผู้ต้องหา ร่วมกันฆ่าสจ.โต้ง นำฝากขังศาลจัหวัดปราจีนบุรี โดยตำรวจได้จัดขบวนนำผู้ต้องหาแบ่งออก 3 คัน คันแรกเป็นรถระกระบะควบคุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน ได้แก่ มือปืน 2 คน คือนายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์ อายุ 34 ปี ( ตูน ) ,นายธนศรัณย์ เตชะธนัตถโชติ อายุ 32 ปี (กอล์ฟ) และผู้ติดตาม คือ นายธนภัทร ส่งแสง อายุ 18 ปี ผู้ติดตามโกทร ( อยู่ในที่เกิดเหตุ ) , และนายอภิสิทธิ์ สดชื่น อายุ 34 ปี
ต่อมาคันที่ 2 เป็นรถตู้ควบคุมตัวผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายภัทรนนท์ บุญชู อายุ 38 ปี / นายสิทธิชัย ศรีภักดี อายุ 41 ปี ผู้ติดตามโกทร ( อยู่ในที่เกิดเหตุ ) ขึ้นรถตู้ไป เป็นคันที่ 2 ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 ไม่ตอบคำถามสื่อฯ
ส่วนคันที่ 3 เป็นรถตู้ควบคุม โดยตำรวจพยุ่งตัวนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร อายุ 85 ปี ขึ้นรถเพียงคนเดียว ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามโกทร ว่า ความสัมพันธ์ สจ.โต้งเป็นยังไงนั้น โกทร ยอมรับว่ารักเป็นลูกหลาน พร้อมยืนยันว่าคุยเคลียร์เรื่องการลงสมัครสมาชิก อบจ.กันเรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันไม่ได้สั่งฆ่า ซึ่งช่วงนี้โดยโกทร ตะโกนย้ำ “ฆ่าทำไม บ้าบอเหรอ ผมช่วยเขาตลอด” ระหว่างโกทรก้าวขาขึ้นรถตู้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าสรุปแล้ว สจ.โต้งทะเลาะกับใคร ทะเลาะกับกอล์ฟจริงหรือไม่ โกทร ตอบสั้น ๆ เบา ๆว่า “ใช่” นอกจากนี้ การคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนนั้นตำรวจใช้ชุดเฉพาะกิจควบคุมพร้อมอาวุธครบมือ ควบคุมประกบดูแลอย่างแน่นหนา เพื่อนำตัวไปส่งศาลฝากขัง
ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เอกสารข่าวแจกเพิ่มเติม กรณีข่าวเหตุยิงกันตายภายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี
พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ในฐานะโฆษกได้เปิดเผยว่า (1)ตามเหตุการณ์ที่เป็นข่าวกรณีเหตุยิง สจ.โต้ง เสียชีวิตในบ้านนายสุนทรู วิลาวัลย์ ซึ่งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน “ร่วมกันซ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” นั้น ในวันนี้ (13 ธ.ค.67) พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้ง 7 คน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันมีอาวุธปื่นและเครื่องกระสุนปื่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
(2) ในวันนี้ (13 ธ.ค.67) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ภิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป.2)
(สส.2) ให้ควบคุมกำกับการปฏิบัติกรณีดังกล่าว โดย พล.ต.ท.อัคราเดชฯได้นำตรวจบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมประชุมติดตามคดี และสั่งการ โดยมี
พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.มนตรี เทศขันผบก.ป. , พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.หญิง กิตติยา โตพัฒนกุล นวท.(สบ.4) พฐ.จว.ปราจีนบุรี ผู้ที่เกี่ยวข้อง และทีม สืบสวนในคดีนี้ ซึ่งมีความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนเป็นอย่างมาก
(3) ขณะนี้ ได้ดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนไปฝากขังต่อศาล จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา ทั้ง 7 คน
ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส