DSI มีคำสั่งยึดที่ดินเพิ่ม 78แปลง ของ”18บอสดิไอคอน”ปมฟอกเงิน

249

วันพฤหัสบดี ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567(เวลา 8.30 น.)ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์รายงานว่า DSI ได้มีคำสั่งยึดที่ดิน“ดิไอคอน”เพิ่มอีก 78 แปลงในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล ผู้ต้องหาทั้ง18 ราย และผู้เกี่ยวข้อง ตามมูลฐานฟอกเงิน พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกัน เผยรอประสานทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-ทัณฑสถานหญิงกลาง นัดหมายให้เข้าแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ – พ.ร.บ.ขายตรงฯต่อ 18 บอส ย้ำเส้นเงินผลตอบแทนจากแผนธุรกิจฯเชื่อมกันและอัตราตอบแทนสูงกว่า กม. กำหนด

โดยเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม ชั้น 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)เสร็จสิ้น ว่าวันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567ได้ประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน บช.ก.ตามข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งกำหนดให้มีการประชุมหารือร่วมกัน หลังจากที่มีการส่งสำนวนแล้ว วันนี้จึงได้ประชุมถึงแนวทางในการรวบรวมพยานหลักฐาน ในการดำเนินการทางสำนวน วันนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากทีม บช.ก.นำโดย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก.และคณะ อีกทั้งยังทราบประเด็นที่มาแห่งการสืบสวนในประเด็นต่างๆตามองค์ประกอบความผิดว่า มีผู้ใดสืบสวนเรื่องใดบ้าง จึงทำให้มีความมั่นใจว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดระยะเวลาควบคุม ทั้งนี้ ในที่ประชุมเราได้หารือกันทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน แผนประทุษกรรม การดำเนินธุรกิจต่าง ๆ การจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า สำหรับการจะแจ้ง 2 ข้อหาเพิ่มเติมแก่ 18 บอสดิไอคอนฯ อันประกอบด้วย พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ. ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 นั้น คาดว่าจะดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ อาจเป็นวันศุกร์ที่ 8 พ.ย. และต่อเนื่องไปยังสัปดาห์หน้า โดยจะต้องนัดหมายทางทนายความของผู้ต้องหา รวมถึงขณะนี้ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างรอการประสานกลับจากทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง ว่าจะให้ดีเอสไอเข้าไปพบผู้ต้องหาได้ในวันเวลาใด

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยถึงกรณี ที่มีพยาน 20 รายของบริษัท ดิไอคอนได้เดินทางเข้าพบดีเอสไอเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้รับดำเนินการสอบปากคำเข้าสำนวนด้วยนั้น วันนี้ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้ แต่เราได้แจ้งให้ทนายความไปจัดทำบัญชีรายชื่อพยาน ว่าจะให้สอบปากคำรายใดบ้าง และขอให้กำหนดประเด็นมาก่อน เพื่อพนักงานสอบสวนจะได้ดูว่ามีประเด็นใดที่ซ้ำกันหรือไม่ หรือเป็นประเด็นที่จะใช้พิสูจน์ความผิดและความบริสุทธิ์อย่างไร ตรงนี้ถือเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน จะสอบสวนทุกคนหรือไม่ ต้องขอดูประเด็นก่อน จึงยังไม่ได้นัดหมายกันว่าจะเริ่มสอบปากคำเมื่อใด เพราะทางทนายยังไม่ได้ส่งรายชื่อบัญชีพยานและประเด็นที่ต้องการให้มายังดีเอสไอ

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวอีกว่าส่วนเรื่องความผิดกรณีการฟอกเงินทางอาญานั้น ดีเอสไอมีความคืบหน้า คือ คณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินทางอาญาได้มีการยึดและอายัดที่ดินเพิ่มเติม จำนวน 78 แปลง ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งสืบสวนพบว่าเป็นที่ดินของผู้ต้องหา18บอสและกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง โดยเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีบริษัท ดิไอคอนฯ พนักงานสอบสวนจึงต้องยึดและอายัดไว้ตรวจสอบ และจะได้นำส่งสำนักงาน ปปง. ดำเนินการเรื่องทรัพย์สินต่อไป

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยด้วยว่า ประเด็นพฤติการณ์ของบริษัทดิไอคอนฯ ที่เข้าองค์ประกอบของแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากมีการตกลงร่วมกัน มีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และรู้หรือควรรู้ว่าไม่สามารถประกอบธุรกิจได้โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนได้ตามที่ดำเนินการ

เมื่อถามถึงกรณีธุรกรรมทางการเงิน และการจ่ายผลตอบแทนของบรรดา 17 บอสที่เหลือเนื่องจากบอสพอล คือ ผู้บริหารหลัก เป็นอย่างไรนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา แจงว่า รายละเอียดภายในสำนวนตนไม่สามารถระบุได้ ส่วนหลักการที่กล่าวได้คือเส้นทางการเงินของทุกคนมีความเชื่อมโยงถึงกัน

ทั้งนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการหารือถึงการแจ้งข้อหา ผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการกรณีผู้ต้องหากลุ่มที่ 1 จำนวน 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย คือ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ขอให้สำนวนนี้เสร็จสิ้นก่อน พร้อมย้ำว่า ดีเอสไอจะเร่งดำเนินการสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการให้เร็วที่สุดภายในระยะเวลาการควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่วนถ้าหลังจากนี้ทนายความจะยื่นขอศาลปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา แต่การทำสำนวนของดีเอสไอยังคงดำเนินการต่อไป และสิทธิ์การชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ให้ข้อเท็จจริงเป็นของผู้ต้องหา ดีเอสไอก็ต้องมาชั่งน้ำหนักว่าเป็นการกระทำความผิดหรือไม่ โดยต้องดูพยานหลักฐานประกอบ

วันเดียวกัน ผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “The iCon Group” โพสต์ประกาศเรื่อง บัญชีบริษัทฯ ขณะนี้ถูกอายัด จึงยังไม่สามารถคืนเงินทริปท่องเที่ยวได้ รวมถึงยอดเงินคืนในส่วนอื่นตามเงื่อนไขบริษัท ของเดือนตุลาคม 2567 ระบุข้อความว่า “ตัดยอดเงินคืนทริปท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ไม่ไปท่องเที่ยว รวมถึงยอดเงินคืนในส่วนอื่นตามเงื่อนไขบริษัท ของเดือนตุลาคม 2567 เนื่องจากขณะนี้ เงินในบัญชีธนาคารและทรัพย์สินของทางบริษัทฯ ยังคงถูกอายัดไว้ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ”

“กรณีจึงเป็นเหตุสุดวิสัย ส่งผลกระทบให้การชำระคืนตามเงื่อนไขของบริษัท จำเป็นต้องถูกเลื่อนออกไปก่อนด้วยเหตุสุดวิสัย จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ ทางบริษัทฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้”

ในวันเดียวกัน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เดินทางมาเพื่อร่วมการสอบปากคำโดยพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)

มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนได้เดินทางมาถึงที่เรือนจำฯ ประมาณ 10.00 น. โดยแบ่งออกเป็น 2 ชุด เพื่อสอบปากคำ 2 ประเด็น คือ พนักงานสอบสวนชุดแรกจะสอบปากคำบอสพอล กรณี เจ้าของเพจดัง เกี่ยวกับการต้านโกง ที่นายวิฑูรย์ ได้แจ้งความดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้โดยกล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงินจากบอสพอล พร้อมส่งคลิปเสียงเป็นหลักฐาน ส่วนพนักงานสอบสวนอีกชุดจะสอบปากคำทั้งบอสพอล และบอสแล็ป กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานมูลนิธิชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม อ้างว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นตำรวจกองปราบปรามเรียกรับเงินจำนวน 9 ล้านบาท จากบอสแล็ป

ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนเดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพว่าตนจะไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดการสอบปากคำในวันนี้แต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอยังไม่ได้มีการประสานเข้าสอบปากคำบอสดิไอคอนกรุ๊ปเพิ่มเติม ช่วงนี้ตนอาจจะพูดคุยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนน้อยลง เนื่องจากต้องเตรียมพยานและเอกสารจำนวนมากเพื่อการต่อสู้ทางคดี

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ดีเอสไอ