หมอความเล่นบทหิวแสง เข้าข่ายผิดมรรยาททนายฯหรือไม่? นายกฯ-กก.สภาฯต้องรีบแอ็คชั่น

805

     นับแต่เกิดคดีดิไอคอน จนกลายเป็นมหากาพย์ข่าวใหญ่พัวพันถึงบุคคลหลายวงการไม่ว่าจะเป็น นักการเมือง ทหาร ตำรวจ บิ๊กข้าราชการ ดารา นักร้อง พิธีกร และทนายความ เป็นต้น  แต่ละอาชีพเกี่ยวพันในบทบาทที่แตกต่างกันมีทั้งเป็นผู้บริหาร ให้ความคุ้มครอง ช่วยเหลือเหยื่อ และร่วมกันตบทรัพย์



      แต่อาชีพที่ถูกสังคมตั้งคำถามากสุดเพราะมีทั้ง อ้างชื่อเหยื่อไปตบทรัพย์จากผู้บริหารดิไอคอน  แสดงอาการข่มขู่จะดำเนินคดีถ้าเข้าแจ้งความ ตั้งกลุ่มอ้างจะช่วยเหลือเหยื่อ โดยมีการตอบโต้กันไปมาเพื่อปกป้องตัวเองและลูกความ นั่นคืออาชีพทนายความหรือหมอความ

     ผลพวงดังกล่าวทำให้สังคมได้เห็นสันดานของทนายความหลายคนว่าพยายามสร้างประเด็นออกสื่อหรือเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกระแสข่าวดัง เพียงเพื่อปั่นราคาค่าตัว พอถึงฉากจบทิ้งลูกความให้สู้เพียงลำพังหรือผ่องถ่ายให้ทีมงานรับช่วงต่อ

         จากปรากฏดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้ทนายความที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เคารพในวิชาอาชีพ เป็นอย่างมาก จน นายไพศาล พืชมงคล ทนายความ เจ้าของบริษัททนายความชื่อดัง เกิดอาการอับอาย โพสต์เฟซบุ๊กว่า สภาทนายความดูแลทนายความทั่วประเทศ ย่อมรู้เห็นสภาพอันเป็นไปของบ้านเมือง ที่ทนายความจำนวนหนึ่งมีพฤติกรรมที่กระทบต่อมรรยาทและเกียรติศักดิ์ความเชื่อมั่นของทนายความอย่างรุนแรงมาก

         “เป็นหน้าที่ของสภาทนายความต้องพิจารณาตรวจสอบเรื่องมรรยาททนายความรวมไปถึงจริยธรรม คุณธรรมและฐานะอันเป็นดุลยพาหะ เพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรีของทนายความทั่วประเทศสืบไป อันทนายความนั้นเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่วิชาอาชีพในการแก้ต่าง แก้ต่างอรรถคดีและกฎหมายว่าด้วยมรรยาท ทนายความควบคุมดูแลเพื่อให้อยู่ในศีลธรรมอันดีและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของผู้มีวิชาอาชีพทนายความ..”นายไพศาลระบุและว่าสภาทนายความต้องตื่นตัวขึ้นมาทำหน้าที่ได้แล้ว เพราะสภาพที่เกิดขึ้นกระทบและเสื่อมเสียต่อทนายความอย่างมาก

      ขณะที่ นายนิวัติ แก้วล้วน อดีตเลขาธิการสภาทนายความ โฟสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องให้ผู้บริหารสภาทนายความและคณะกรรมการมรรยาททนายช่วยหันมามองพฤติกรรมกลุ่มทนายความดรีมทีมเพราะเสมือนท้าทายเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์กรวิชาชีพสภาทนายความ

      ข้อเรียกร้องของทั้งสองมุ่งหวังให้นายกสภาฯและคณะกรรมการสภาทนายความ รีบสอบสวนทนายความทั้งฝั่งช่วยเหยื่อและฝั่งของผู้บริหารดิไอคอนว่ามีพฤติกรรมผิดมรรยาททนายความหรือไม่      

       เพื่อให้ผู้อ่านได้คิดตามว่ามีใครเข้าข่ายผิดมรรยาทฯบ้างจึงขอยกข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ 2529 หมวด 3 มรรยาทต่อตัวความ ขอยกเพียงบางข้อ อาทิข้อ 10 ระบุว่าใช้อุบายอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้ใดมอบมอบคดีให้ว่าต่างหรือแก้ต่าง (1) หลอกลวงให้เขาหลงว่าคดีนั้นจะชนะ เมื่อตนรู้สึกแก่ใจว่าแพ้ (2)อวดอ้างว่าตนมีความรู้ยิ่งกว่าทนายความอื่น (3)อวดอ้างว่าเกี่ยวเป็นสมัครพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใดอันกระทำให้เขาหลงว่าตนสามารถจะทำให้เขาได้รับผลเป็นพิเศษนอกจากทางว่าความหรือหลอกลวงว่าจะชักนำจูงใจให้ผู้นั้นช่วยเหลือคดีในทางใดๆได้ หรือแอบอ้างขู่ว่าถ้าไม่ให้ตนว่าคดีนี้แล้วจะหาทางให้ผู้นั้นกระทำให้คดีของเขาเป็นแพ้

         ข้อ 14 ระบุว่าได้รับความเป็นทนายความแล้ว ภายหลังใช้อุบายด้วยประการใดๆ โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เพื่อจะให้คนได้ประโยชน์นอกเหนือจากที่ลูกความได้ตกลงสัญญาให้ และข้อ 15 ระบุว่ากระทำการอันใดอันเป็นการฉ้อโกง ยักยอก หรือตระบัดสินลูกความหรือครอบครองหรือหน่วงเหนี่ยว เงินหรือทรัพย์สินของลูกความที่คนได้รับมาโดยหน้าที่อันเกี่ยวข้องไว้นานเกินกว่าเหตุ โดยมิได้รับความยินยอมจากลูกความ เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควร

          หมวด 4 มรรยาทต่อทนายความด้วยกัน ต่อประชาชนผู้มีอรรถคดีและอื่นๆ มีจำนวน 4 ข้อ ขอยกข้อ 17 ระบุว่าประกาศโฆษณาหรือยินยอมให้ผู้อื่นประกาศโฆษณาดังต่อไปนี้ (1)อัตราค่าจ้างว่าความหรือแจ้งว่าไม่เรียกร้องค่าจ้างว่าความ เว้นแต่การประกาศโฆษณาของทนายความเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ซึ่งดำเนินการโดยสภาทนายความเอง หรือโดยสถาบัน  สมาคม องค์การหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  (2)ชื่อ คุณวุฒิ ตำแหน่ง ถิ่นที่อยู่หรือสำนักงาน อันเป็นไปในทางโอ้อวดเป็นเชิงชักชวนให้ผู้มีอรรถคดีมาหาเพื่อเป็นทนายความแก่ต่าง เว้นแต่แสดงชื่อ คุณวุฒิ อื่นๆตามสมควรโดยสุภาพ

     ข้อ 18 ระบุว่า ประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจหรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ  

     จากข้อบังคับที่ยกมาผู้อ่านพอประเมินได้ว่าบรรดาทนายความที่กำลังมีบทบาทในข่าวดังทั้งหลายเข้าข่ายผิดมรรยาททนายความหรือไม่ แต่ทั้งนี้คงต้องรอผลการสอบสวนเพราะ นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ออกมาแอ็คชั่นแล้วว่าจะประสานความร่วมมือกับประธานกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อตรวจสอบเอาผิดทนายความที่ประพฤติผิดมรรยาทอย่างจริงจัง


         แม้นายกสภาทนายความฯจะออกแอ็คชั่นช้าคงเป็นไร แต่ผลสอบสวนควรออกมาแบบฉับไว เพราะประชาชนต่างจับตาดูอยู่ว่าสภาทนายความฯมีน้ำยาพอที่จะจัดกับพวกทนายหิวแสงหรือไม่ เพราะข่าวสะพัดการบริหารภายในสภาทนายความฯไม่ค่อยโปร่งใส อาจจะถูกทนายความกลุ่มนี้ย้อนศรเอาก็เป็นได้