ตามที่รัฐบาลเปิดแคมเปญ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหลังภาคเหนือเผชิญน้ำท่วมหนัก สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินงานในการพัฒนาการเกษตรของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสนับสนุนการทำเกษตรแบบประณีต สร้างเกษตรกรต้นแบบเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตรมูลค่าสูง โดยทดสอบขยายผลเทคโนโลยีแปรรูป พัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร และเชื่อมต่อสินค้าเกษตร เสริมแนวคิดสร้างสรรค์ สร้างสิ่งใหม่ๆ เข้าสู่กระบวนการผลิตและตลาดส่งเสริมผลักดัน Food and Craft Cultural ของจังหวัดสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy เชื่อมโยงสู่ Soft Power ของประเทศ
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนแม่ฮ่องสอนโมเดล เป้าหมายสำคัญคือการสร้างรายได้ให้เกษตรกร สร้างความมั่นคงด้านอาหาร ควบคู่กับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ อย่างสมดุลและยั่งยืน ผ่านการพัฒนาดิน น้ำ พืช ประมง ปศุสัตว์ เกษตรที่สูง ให้ครอบคลุมทุกมิติ พื้นที่ คน สินค้า มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผน และบริหารจัดการพื้นที่ อย่างเหมาะสม กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานหนึ่งในการสนับสนุนแผนการขับเคลื่อนแม่ฮ่องสอนโมเดล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้ยกระดับสินค้าเกษตรสู่การท่องเที่ยวเกษตร เชิงสร้างสรรค์ บ้านแพมบก อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร”บ้านแพมบก”หนึ่งในพื้นที่แม่ฮ่องสอนโมเดล กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ร่วมพัฒนาศักยภาพของสมาชิกวิสาหกิจชุมชนด้านการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน โดยการจัดเวทีชุมชนเพื่อสังเคราะห์องค์ความรู้การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตามแนวทาง BCG Model และมาตรฐานด้านความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงข้อมูลเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและชุมชน ทั้งนี้ ชุมชนได้ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พบว่า จะต้องพัฒนาศักยภาพจุดเรียนรู้ของชุมชน ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงการปรับปรุงโปรแกรมการท่องเที่ยวให้มีความหลากหลายและตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังส่งเสริมและสนับสนุนความรู้สมาชิกวิสาหกิจชุมชนในการสื่อสารภาษาต่างประเทศ โดยประสานสถาบันศึกษาในพื้นที่ ผลักดันให้มีมัคคุเทศก์น้อย พัฒนาผลิตภัณฑ์ในชุมชนให้เป็นของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว และจัดทำข้อมูลแผนที่เส้นทางนำเที่ยวตามเส้นทางการท่องเที่ยว เป็นต้น
นายพีรพันธ์ กล่าวว่า จากเป้าหมายสำคัญที่ต้องการพัฒนาให้เกษตรกรมีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจจากผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ควบคู่กับประสบการณ์ท่องเที่ยวและอาหารเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่ ซึ่งมีสินค้าเกษตรพื้นที่สูงที่มีเอกลักษณ์และคุณค่า เชื่อมต่อธุรกิจท่องเที่ยวและบริการอาหารสุขภาพ และห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เป็นต้น สำหรับแคมเปญ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ที่ทางรัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหลังภาคเหนือเผชิญน้ำท่วม หนักครั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรขอเชิญชวนให้แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรทุกแห่งของจังหวัดในภาคเหนือเข้าร่วมโครงการฯ และเชิญชวนประชาชนที่สนใจไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านแพมบก อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
