ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เด็ก นร.-ครูจาก44คนลงมาได้แค่19คน

401

ไฟไหม้รถบัสนักเรียนทัศนศึกษา 44 ชีวิตบนรถรอดตาย19 สูญหาย25ราย – ล่าสุดนายกฯแสดงความเสียใจ พร้อมสั่ง”อนุทิน-สุริยะ”ลงพื้นที่

วันนี้ (1 ตุลาคม) เมื่อเวลา 12.20 น. เกิดเหตุไฟไหม้ บริเวณใกล้เคียงศูนย์การค้าเซียรังสิต ถนนพหลโยธิน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี มีรายงานรถที่เกิดเพลิงไหม้เป็นรถบัสโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม  จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้ ระหว่างเดินทางกลับจากทัศนศึกษา มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ที่เกิดเหตุบริเวณทางคู่ขนานพหลโยธิน พบรถบัสทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี มีไฟลุกไหม้ทั้งคันเจ้าหน้าที่ใช้น้ำดับเพลงจนเพลิงสงบ ตรวจสอบพบ ผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ใกล้เคียงแล้วเบื้องต้นจำนวน 6 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่มากับรถบัส เปิดเผยว่าโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม  จังหวัดอุทัยธานี ได้เดินทางมาทัศนศึกษาจำนวน 3 คัน โดยคันเกิดเหตุเป็นคันที่สอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายงานมีนักเรียน และครู อยู่บนรถรวม 42 รายสามารถออกมาจากรถได้ 19 รายเสียชีวิตยืนยันแล้วประมาณ 10 ราย เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบเหตุ มีรายงานว่ารถบัสคันที่เกิดเหตุใช้แก๊ส NGV

44 ชีวิตบนรถบัสนักเรียนทัศนศึกษา ยันลงจากรถได้ 19 คน ส่วนที่เหลือกำลังตรวจสอบ ด้าน พฐ.ลงพื้นที่หาสาเหตุ

ด้าน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผย กรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียนทัศนศึกษา บริเวณใกล้เคียงศูนย์การค้าเชียรังสิต ถนนพหลโยธิน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี ว่าเหตุเกิดเวลา 12.00 ในพื้นที่ สภ.คูคต รถทะเบียนป้ายเหลือง สิงห์บุรี มีเด็กนักเรียนที่มาทัศนศึกษาจำนวน 38 คน ครู 6 คน รวมทั้งหมด 44 คน สามารถลงจากรถได้ 19 คน  ส่วนรายละเอียดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกำลังตรวจสอบ ส่วนรายละเอียดสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ยังไม่ทราบ ขอให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลใดหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบก่อนเช่นกัน พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาตำรวจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการในการอพยพช่วยเหลือผู้ประสบภัยเกิดเกตุไฟไหม้รถทัวร์ 2ชั้นอยู่แล้ว  

เวลา 13.30 น. พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ อยู่ระหว่างลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นสั่งการพิสูจน์หลักฐาน 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

ขณะที่ ทีมข่าวได้พูดคุยกับอาสาสมัครกู้ภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ในจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 13 ราย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเด็กกี่รายและครูที่เป็นผู้ใหญ่กี่ราย โดยสภาพผู้เสียชีวิตนั้นถูกไฟครอกไหม้เกือบทั้งหมดและนอนกองเสียชีวิตกันอยู่บริเวณท้ายรถ สอดคล้องกับจำนวนผู้สูญหายที่เบื้องต้นมีจำนวน 25 ราย แบ่งเป็นเด็ก 22 ราย และผู้ใหญ่หรือครู 3 ราย แต่จำนวนดังกล่าวยังไม่นิ่ง ส่วนผู้รอดชีวิตนั้น อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามโรงพยาบาลต่าง ๆ

ทั้งนี้ อุปสรรคสำคัญคือ แก๊ส NGV จากรถบัสยังคงรั่ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำ เพื่อลดอุณหภูมิและไล่แก๊สออกให้หมด ซึ่งหากสามารถแก้ปัญหาเรื่องแก๊สรั่วได้ ก็จะสามารถลำเลียงนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถบัสคันดังกล่าว

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ โดยได้มีการปิดกั้นการจราจรถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าเร่งด่วนทั้งหมด ให้เบี่ยงใช้เลนคู่ขนานหรือถนนพหลโยธินแทน นอกจากนี้ บุคลากรระดับสูงของรัฐบาล ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว

สำหรับขั้นตอนจากนี้ จะต้องรวมร่าง ชิ้นส่วนต่างๆ ประสานกับร้อยเวรเจ้าของพื้นที่ ว่าจะตั้งจุดพิสูจน์เอกลักษณ์ ที่ไหน อาจเป็นนิติเวช รพ.ตำรวจ

ล่าสุด น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงใน เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ว่า ดิฉันทราบถึงเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสจากอุทัยธานี ที่โดยสารนักเรียนเข้ามาทัศนศึกษาในกรุงเทพฯ และเกิดอุบัติเหตุบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ในฐานะแม่ ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

ในฐานะรัฐบาล ได้สั่งการให้ท่านอนุทิน ท่านสุริยะ และ ท่านซาบีดา ลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุด้วยตัวเองแล้ว โดยรัฐบาลจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตค่ะ

คลิปอ่านเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/ingshin21

#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #Thaitabloid