โรงงานอุตสาหกรรมข้ามชาติมักง่ายปล่อยสารพิษลงแหล่งน้ำ

341

โรงงานอุตสาหกรรมข้ามชาติมักง่ายปล่อยสารพิษลงแหล่งน้ำ

นักวิชาการ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์น้ำบาดาลตรวจสอบอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำโจน แห่งที่ 16 จ.ฉะเชิงเทรา พบสารปนเปื้อนแพร่กระจายลงสู่ชั้นใต้ดิน ก่อนใช้เป็นหลักฐานมัดเอาผิดโรงงานอุตสาหกรรมข้ามชาติ เรียกค่าเสียหายฐานเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ

ดร.มนัสวี เฮงสุวรรณ นักธรณีวิทยาชำนาญการ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมคณะลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำโจนแห่งที่ 16 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำโจนแห่งที่ 16 ซึ่งมีการปนเปื้อนของโลหะหลายชนิด โดยตรวจสอบการปนเปื้อนแหล่งน้ำบาดาลบริเวณอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำโจน แห่งที่ 16 และบ่อยืมดินขนาดใหญ่ 4 บ่อ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันผลพบคุณภาพน้ำมีสภาพเป็นกรด ค่า pH ประมาณ 3 และมีการปนเปื้อนของโลหะหลายชนิด โดยเฉพาะเหล็กตรวจพบถึง 3 พันมิลลิกรัมต่อลิตรซึ่งค่าปกติจะมีแค่ 1 มิลลิกรัมต่อลิตร นอกจากนี้ยังพบแมงกานีส ทองแดง สังกะสี เป็นต้น ที่ร้ายที่สุดคือปัจจุบันไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆอาศัยอยู่ในน้ำ ภายในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำโจนแห่งที่ 16 นี้เลย

ดร.มนัสวี เปิดเผยว่า ทีมนักวิชาการกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เข้ามาตรวจสอบคุณภาพน้ำของอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำโจนแห่งที่ 16 มีความจุกักเก็บ 1.97 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 62 หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่าน้ำในอ่างผิดปกติ ปลาเริ่มลอยตายเป็นจำนวนมากน้ำไม่สามารถใช้งานได้ ทีมนักวิชาการได้เร่งทำการพิสูจน์หาสาเหตุจนพบการปนเปื้อนของโลหะหลายชนิดในน้ำ จึงหาที่มาของแหล่งที่ปล่อยสารปนเปื้อน โดยการศึกษาทางอุทกเคมีและจัดทำแบบจำลองทางคณิตศาสตร์น้ำบาดาล พร้อมจัดทำแบบจำลองการเคลื่อนที่ของสารปนเปื้อนในน้ำใต้ดิน โดยวิธี Forward particle tracking และ Backward particle tracking จนพบทิศทางการไหลหลักของสารปนเปื้อนในน้ำใต้ดินมีทิศทางการไหลจากพื้นที่ของบริษัทเอกชนข้ามชาติแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ห่างจากอ่างฯประมาณ 500 เมตร คาดสารปนเปื้อนที่พบต้องใช้ระยะเวลาการเคลื่อนที่ประมาณ 3 – 7 ปี

ดร.มนัสวี กล่าวว่า จากการประเมินการกระจายตัวของสารปนเปื้อนในพื้นที่ศึกษา ณ ช่วงเวลาต่างกันทั้งแบบสองและสามมิติ โดยอาศัยแบบจำลอง Mass Transport in 3-Dimensions (MT3D) พบว่าจากสถานการณ์จำลอง ซึ่งกำหนดให้มีการปล่อยสารปนเปื้อนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นกรณีที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์คุณภาพน้ำใต้ดินในปัจจุบันมากที่สุด ผลการวิเคราะห์คุณภาพน้ำใต้ดินตรวจพบแนวการปนเปื้อนของน้ำใต้ดินที่มีคุณลักษณะทางเคมีสูงผิดปกติไปจากน้ำใต้ดินที่พบในธรรมชาติทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล็ก แมงกานีส ทองแดง สังกะสี คลอไรด์ ซัลเฟต และมีค่าปริมาณสารทั้งหมดที่ละลายได้สูงถึง 2,600-23,000 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยองค์ประกอบทางเคมีที่พบในน้ำใต้ดินที่ปนเปื้อนและน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำโจน แห่งที่ 16 มีความสอดคล้องกับน้ำเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ

“จากผลการสำรวจด้านอุทกธรณีวิทยา อุทกเคมี และการจัดทำแบบจำลองทางคณิตศาสตร์น้ำบาดาล สามารถสรุปได้ว่า การปนเปื้อนดังกล่าวเป็นการปล่อยให้สารปนเปื้อนแพร่กระจายลงสู่ชั้นใต้ดินและน้ำใต้ดิน และไหลตามทิศทางการไหลของน้ำใต้ดินลงสู่อ่างเก็บน้ำ จนทำให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำโจน แห่งที่ 16 ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้เป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีทางกฎหมายและเรียกค่าเสียหายต่อผู้ที่เป็นแหล่งปล่อยมลพิษที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 ศาลจ.ฉะเชิงเทราได้มีคำสั่งให้บริษัทเอกชนข้ามชาติดังกล่าวชำระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูทรัพยากรน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินให้กลับมามีสภาพดังเดิม เป็นเงิน 1,770 ล้านบาท”ดร.มนัสวี กล่าว.

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์