“แพทองธาร ชินวัตร” รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

374

‘แพทองธาร ชินวัตร’ รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 พร้อมทำหน้าที่ด้วยใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่รับฟังทุกความเห็น ให้ประเทศนี้เป็นประเทศแห่งโอกาส ภายใต้คติประจำใจ ‘ทำวันนี้ให้ดีที่สุด’

วันที่ 18 ส.ค.67 เวลา 09.29 น. ณ ห้องโถงกลาง อาคารวอยซ์ สเปส ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้อัญเชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ

จากนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ความว่า

”ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 1 อนุมาตรา 4 ประกอบมาตรา 160 อนุมาตรา 4 อนุมาตรา 5 และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูล ว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรอาศัยอำนาจตามความในตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศณวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบันผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายวันมูหะมัด นอร์มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร“

จากนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการ ว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดิฉัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต

ดิฉัน ครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น ทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชน สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ

ดิฉันขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่ได้มอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ให้ดิฉันได้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย

ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้า ฝ่าฟันทุกอุปสรรค แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาปากท้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน

3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ดิชั้นในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร จะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติ ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง

พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านคะ ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชน และพี่น้องประชาชน

ดิฉันจะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและทักษะของคนไทยทุกคน และทำให้ทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินไทย เป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์ และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง

ดิฉัน แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทย เป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความหวัง เป็นประเทศแห่งความสุข ของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม“

จากนั้นนางสาวแพทองธารได้เข้าไปไหว้ขอบคุณบรรดารัฐมนตรี รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และ สส.จากนั้นได้เข้าไปสวมกอดคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดาและนายทักษิณ ชินวัตร บิดา โดยคุณหญิงพจมานถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความยินดี ก่อนที่จะไปกอดพี่ชายพี่สาวแล้วมาสวมกอดกับ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ซึ่งทุกคนในครอบครัวพร้อมทั้งน.ส.แพทองธารเองถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันและยินดี

และในเวลา 11.00 น. น.ส.แพรทองธาร ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนยืนยันพร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมตอบคำถามสื่อมวลชนเดี่ยวกับนโยบายธงอย่างเงินดิจิตอลหลังมีข่าวว่า นายทักษิณ สั่งล้มเลิก โดย น.ส.แพทองธาน ยังยืนยันว่า นายทักษิณ ไม่ได้สั่งให้ล้มเลิกโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งการจะดำเนินโครงการใดก็ตามจะต้องปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเข้าใจดีว่า นายทักษิณ ไม่สามารถลบบทบาททางการเมืองออกได้ ซึ่งในส่วนของโครงการดิจิตอลมีความตั้งใจที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งในปีที่แล้วพรรคเพื่อไทยหาเสียงโดยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้มีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลมาอย่างดีแล้ว แต่ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีเหตุเกิดขึ้นมากมาย สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องมีการศึกษา และรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมและต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ซึ่งจะต้องทำต่อไป แต่ในเนื้อหารายละเอียดจะต้องมีความชัดเจนและจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นต่อเนื่อง เพราะเป้าหมาย คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้น ความตั้งใจนี้ยังต้องอยู่แน่นอน

ส่วนของบทบาททางการเมืองของนายทักษิณ หลังจากนี้ ซึ่งหลายคนกังวลว่าอาจจะเข้าข่ายครอบงำทางการเมืองนั้น น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า นายทักษิณ ไม่ได้เข้ามาครอบงำ เพราะตนเองและคนในครอบครัวมีความคิดเป็นของตัวเองเรามีการปรึกษากันแต่ก็ให้เกียรติกันใครอยู่บทบาทไหนก็ต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่แน่นอนว่าคนที่เคารพนับถือย่อมมีส่วนสำคัญ ในส่วนของตำแหน่งนายทักษิณหลังจากนี้ ยังไม่ได้คิดไว้ ตัวของนายทักษิณก็ไม่ได้อยากมีตำแหน่งอะไร ที่สำคัญจะต้องดูเรื่องข้อกฎหมายที่มีความเซนซิทีฟด้วยว่ามีทางไหนที่จะสามารถใช้วิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ได้โดยไม่โดนคดีตามมา

ส่วนกระแสข่าวว่าในครม.ใหม่จะไม่มีนามสกุล วงษ์สุวรรณนั้น ส่วนตัวไม่เคยได้ยินมาก่อน การจัดทำคณะรัฐมนตรีจะต้องร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลและยังจะมีนามสกุลไหน หรือไม่มีนามสกุลไหน

ส่วนคำปรามาศว่าที่เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้มา เพราะพ่อให้และในอนาคตก็จะซ้ำรอยพ่อและอา ( น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศและพร้อมที่จะเข้าหาทุกภาคส่วนเข้าหาทุกคนทั้งพรรคร่วม อดีตนายกรัฐมนตรีและคนที่มีความสามารถ ซึ่งเชื่อจากหัวใจว่าคนหนึ่งคนไม่สามารถทำงานที่ใหญ่สำเร็จได้เพียงคนเดียว

จึงต้องขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ทั้งหมดเพื่อให้การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีความหมายและผลักดันนโยบายเพื่อประเทศชาติ ได้มากที่สุด พร้อมยอมรับว่าไม่มีใครอยากโดนคดีอย่างคุณพ่อและคุณอา ซึ่งทั้ง2 คนก็ไม่ได้อยากโดนแบบนี้ จึงตั้งใจจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ถูกต้องที่สุด เราต้องมองที่เป้าหมายหากนั่งกังวลทุกอย่างก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้น จะทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีคดี

ส่วนกรณีที่นายทักษิณได้รับการพระราชทานอภัยโทษในเวลาเดียวกับที่ น.ส.แพทองธาร ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ระบุถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสุดที่นายทักษิณ ได้รับการอภัยโทษไม่ว่าช่วงเวลาไหนก็ตาม เป็นสิ่งที่ตนเองและครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวถึงคติในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือ “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด”

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#แพทองธาร ชินวัตร#นายกรัฐมนตรีคนที่ 31