“พิธา” เปิดใจก่อนศาล รธน. ชี้ชะตายุบพรรค ไม่มีใครส่งสัญญาณอะไร มั่นใจประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอย

6694

“พิธา” เปิดใจก่อนศาล รธน. ชี้ชะตายุบพรรค ไม่มีใครส่งสัญญาณอะไร มั่นใจประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอย

ย้ำไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเดินหน้าการเมืองต่อ เชื่อคนซื้อคนงูเห่ามีมากกว่าที่ “จิรัฏฐ์” แฉ ทั้งให้เงิน-ตำแหน่ง สะท้อนการเมืองใต้เข็มขัดมีอยู่จริง

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่สัปปายะสภาสถาน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดใจก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ว่า เมื่อคืนนอนหลับตั้งแต่ 4 ทุ่ม และไม่เครียด เดิมตั้งใจจะร่วมอภิปราย ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ของสมาชิกพรรคก้าวไกล แต่ดูเวลาแล้วน่าจะเกินบ่าย 2 โมง ซึ่งอาจไปศาลรัฐธรรมนูญไม่ทัน จึงเปลี่ยนความคิดและเตรียมขอหารือในที่ประชุมเรื่องการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ก่อนที่จะมีการพิจารณาร่างกฎหมาย ซึ่งตอนนี้น้ำท่วมทั้งหมด 37 จังหวัด แต่การเยียวยาล่าช้า ทำให้ประชาชนไม่มีเงินหมุนทัน ก็อยากเร่งรัฐบาล และใช้โอกาสนี้เป็นปากเสียงแทนประชาชน

สำหรับอนาคตต่อจากนี้ ยังไม่มีแผน ก็เป็นไปตามปกติ พรุ่งนี้ก็มีการถามกระทู้ อาจมีผู้นำฝ่ายค้านถามนายกฯ ครบรอบ 1 ปีในการทำงาน ยืนยันยังมาทำงานตามปกติ แต่ถ้าคำตัดสินเป็นลบก็มีแผนอยู่ เช่น วันเสาร์อาทิตย์นี้ ก็ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี อยู่ดี และยังเดินหน้าทำงานการเมือง เพราะเป็นนักการเมือง เป็น สส. ก็ต้องทำงาน อีกทั้งมั่นใจแนวทางการต่อสู้ มั่นใจในข้อเท็จจริง และมั่นใจในข้อกฎหมาย คิดว่าจะได้รับความเป็นธรรม ขณะนี้ยังมีเวลาอีกสองถึง 3 ชั่วโมง ตอนนี้ยังมีเวลาอีก 2-3 ชั่วโมง ขอทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ให้สมกับที่ประชาชนเลือกมา ขณะเดียวกัน ไม่มีการเช็คสัญญาณอะไร ก็ปกติทุกอย่าง ไม่มีใครส่งสัญญาณ

ส่วนที่ลงภาพบรรยากาศการประชุมพรรคเมื่อวาน ก็เป็นไปตามภาพ เรายังมีความเป็นเอกภาพ ความสมัครสมานสามัคคี ไม่กังวลแต่ไม่ประมาท เข้าใจว่าพรรคยังไปต่อได้แน่นอน

ส่วนกระแสการซื้องูเห่าราคา 20-30 ล้านบาทนั้น นายพิธา บอกว่า มีโอกาสได้เห็นหลักฐานจากโทรศัพท์ของเพื่อน สส. ซึ่งก็เป็นจำนวนเงินตามที่มีข่าวออก บางอย่างก็เสนอเป็นตำแหน่งต่างๆ แต่ซึ่ง สส. ที่นำมาให้ดูก็บอกว่าให้ก็ให้มั่นใจได้ว่าเขาเดินทางต่อกับพรรคก้าวไกลแน่นอน เพราะเงินซื้อเขาไม่ได้ และเราจะไม่เอาความไว้วางใจของประชาชนไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวแน่นอน และเรื่องนี้ทำให้ประชาชนเห็นว่าการเมืองใต้เข็มขัดมีอยู่จริงในบ้านเมือง ในเวลาช่วงแบบนี้

เมื่อถามว่า การซื้อตัวเพราะเหมือนจะรู้อนาคตของพรรคก้าวไกล นายพิธา มองว่า ทำไปเพื่อสร้างอนาคตให้เป็นแบบนั้น แต่ถ้าเราไม่ยอม อนาคตก็จะเป็นไปอย่างที่ต้องการ

ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าอุดมการณ์ของพรรค จะทำให้ไม่มีงูเห่า นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่แค่อุดมการณ์อย่างเดียว แต่มันคือนโยบายและความเชื่อใจของประชาชน ซึ่งตนก็เชื่อมั่นในตัว สส. ทุกคน และว่าที่ผู้สมัครทุกคน เพราะเราเคยถามอย่างเข้มข้นว่าทำไมถึงต้องมาก้าวไกลและมาสมัยนี้ ซึ่งพวกเขาก็ยังจำได้อยู่เสมอว่า เขามาเล่นการเมืองเพราะอะไร

เมื่อถามว่า อยากพูดอะไรหรือไม่ เพราะมีการตีความว่าวันนี้โดนยุบพรรคแน่นอน นายพิธา ย้ำว่ายังมั่นใจในข้อกฎหมาย และทำทุกอย่างเต็มที่ที่เป็นไปได้ ช่วงนี้ก็ยังต้องมีสมาธิในการประชุมสภาก่อน ไม่ได้กังวลอะไร ไม่ได้คิดอะไรล่วงหน้าไปก่อน

เมื่อถามว่า คนที่มาเสนอซื้อตัว เป็นคนเดียวกับที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล เปิดเผยก่อนหน้านี้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนคิดว่ามีมากกว่านั้น

ส่วนเรื่องพรรคสำรอง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ขอโฟกัสการประชุมสภา และฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญก่อน

ส่วนกรณีปรากฏภาพ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทักทายกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในงานศพมารดาของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มองอย่างไรนั้น นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่สามารถคอมเม้นต์ได้ เพราะไม่อยู่ในเหตุการณ์ เห็นแค่รูปออกมา ก็เลยไม่รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ก็ไม่มีความคิดอะไรมากไปกว่านั้น อีกทั้งก็เป็นงานศพมารดาของนายกฯ ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องที่จะไปปรึกษาเรื่องบริหารจัดการน้ำก่อน และส่วนตัวสนใจประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง และเพื่อน- ที่ทำงานที่พรรค เป็นอันดับสอง และเรื่องของพรรคที่จะเกิดขึ้นช่วงบ่ายนี้ ไม่ได้สนใจเรื่องอื่น พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับ น.ส.จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักมวยหญิงชาวไทย ที่คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิค

เมื่อถามว่า เสียกำลังใจหรือไม่ ที่นักวิชาการฟันธงออกมาในทางลบ นายพิธา กล่าวว่า เราไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรใคร มันเป็นข้อเท็จจริง เพราะตั้งแต่ปี 2549 ที่สภารวบรวมข้อมูลมา พบว่า 33 พรรคถูกยุบ ซึ่งตัวเลขที่ออกมารวมกัน 249 คน ตรงนี้ใครเป็นนักสถิติ นักวิชาการ ก็จะรู้สึกแบบนั้นว่าพรรคก้าวไกลต้องถูกยุบแน่ แต่เป็นข้อเท็จจริงว่ามีพรรคที่รอดคำพิพากษาที่ 25 / 53 คือ พรรคประชาธิปัตย์รอด เพราะ กกต. ทำคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งก็คล้ายกับกรณีของพรรคก้าวไกลที่มีอยู่ตอนนี้ ก็คือ กกต. ไม่ได้ทำตามระเบียบของตัวเอง ทำให้ตนไม่มีสิทธิ์ชี้แจงและรับทราบข้อกล่าวหาในชั้น กกต.

ทั้งนี้ ขอยืนยันในคำแถลงที่ชี้แจงความโปร่งใสให้ประชาชนมาโดยตลอด พร้อม
ยืนยันไม่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เหมือนพรรคอนาคตใหม่ ”นายพิธา กล่าวให้สัมภาษณ์“

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#พิธา ลิ้มเจริญรัตน์#พรรคก้าวไกล