“ก.ตร.ตงฉิน”ฟาดเดือด9ปีที่ผ่านมา“นักการเมือง”ทำให้องค์กรตำรวจ เสื่อมหนัก

9578

‘พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ‘ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ฟาดเดือด 9 ปีที่ผ่านมา“นักการเมือง”ทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมหนัก เหตุมีนายตำรวจระดับสูงของ ตร. รับลูกเป็นผู้ชี้โพรงให้กระรอกมาทำการปู้ยี้ปู้ยำองค์กรตำรวจของตนเอง

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์รายงานว่า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้โฟสต์ข้อความบนfacebookมีใจความระบุว่า

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมได้นำเสนอเรื่อง นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะอนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการพัฒนางานสืบสวนสอบสวน การเสนอร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ(ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)เกี่ยวกับการเลือกประธาน ก.ตร. องค์ประกอบ ก.ตร.การคืนแท่งพนักสอบสวน แต่งตั้งอาวุโส 50 %ฯลฯ

ได้มีนายตำรวจท่านหนึ่งส่งข้อความมาให้ผม แสดงความคิดเห็นในเรื่องปัญหา ข้อขัดข้อง และเสนอแนะการแก้ไขปัญหาตำรวจ หลายเรื่อง

ผมพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นความคิดเห็นที่เป็นอิสระ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ สะท้อนให้เห็นความจริงที่เกิดขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาตำรวจ เพื่อให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชนอย่างแท้จริงต่อไป ขออนุญาตนำเสนอไว้ ณ ที่นี้

ตอนที่ 1

เมื่อคราว มีการปฏิบัติการทำรัฐประหารที่ผ่านมา ข้าราชการตำรวจโดยภาพรวมต่างมีความคาดหวังว่า เมื่อทหารมาปกครองและบริหารงานองค์กรตำรวจ และข้าราชการตำรวจน่าจะต้องดีขึ้นทั้งในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย เรื่องสวัสดิการและเรื่องความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ….ให้เหมือนหรือคล้ายกับกองทัพ ซึ่งข้าราชการตำรวจ หวังว่าทหารที่มาปกครอง หรือเป็น ผู้บังคับบัญชาองค์กรตำรวจซึ่งเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกันและ ทำงานเคียงบ่า เคียงไหล่กันมา เป็นเวลายาวนาน โดยเฉพาะ การถูกกระทำจาก อำนาจทางการเมือง เข้ามาแทรกแซง มาก่อนเหมือนกัน….คงจะไม่เกิดขึ้น ในยุคทหารครองเมือง…..

เมื่อได้เฝ้าติดตามการบริหารงานของทหารที่ผ่านมา ปรากฏว่า ข้าราชการตำรวจ โดยภาพรวมประชาชน และสื่อมวลช ย่อมสัมผัสได้ว่าความหวังที่จะ ให้องค์กรตำรวจดีขึ้น กลับ เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามและเมื่อเปรียบเทียบกับยุคอื่นๆที่ผ่านมา ในหลาย ๆ เรื่องกลับ ..หนักกว่าเดิม…หลายเรื่องราว ที่ทหารผู้ปกครองนำมาใช้กับ องค์กรตำรวจและข้าราชการตำรวจทั้งในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย สวัสดิการ หรือ การเจริญก้าวหน้า ไม่เหมือนระบบของกองทัพ แต่อย่างใด และ ข้าราชการตำรวจโดยทั่วไป ก็ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เพราะ หลายกรณี ทุกคนรับรู้ รับทราบว่า ที่ปรึกษา หรือ ผู้ดำเนินการ ผู้อยู่เบื้องหลัง คือ นายตำรวจระดับสูง ของ ตร. เป็นผู้….ชี้โพรงให้กระรอก….มาทำปู้ยี้ปู้ยำ….องค์กรตำรวจ ที่ตนเอง รับราชการ รับเงินเดือน และ บางครั้งเคยประสบปัญหา ในลักษณะ ดังกล่าวมาแล้ว ….น่าจะมีจิตสำนึก ที่จะ นำเสนอข้อมูล หรือ ใช้เป็นโอกาส ในการ สร้างความเข้าใจ และขอความเห็นใจ จาก ทหารผู้มีอำนาจ ในการ แก้ไข ปรับปรุง และ พัฒนา องค์กรตำรวจ ให้ดีขึ้น แต่….เปล่าเลย…..

ตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่ผ่านมา ทำให้องค์กรตำรวจ เสื่อมหนัก และ ข้าราชการตำรวจ เกิดการ แบ่งพรรค แบ่งพวก ขาดความสามัคคี อยู่แบบ….มือให้ยาว สาวได้สาวเอา… ..ข่าวสารเกี่ยวกับการ ..ซื้อขายตำแหน่ง …เกิดขึ้น อย่างมากมาย.. ข่าวสารเกี่ยวกับ….การถอนทุน….เกิดขึ้น ตามพื้นที่ ต่าง ๆ ซึ่งประชาชนสังคมและ สื่อมวลชน ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง….ทำให้ ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและรักในองค์กรตำรวจ หลายนายเกิดการท้อแท้ ไม่เชื่อมั่นและศรัทธา ในตัว ผู้บังคับบัญชา จนบางนาย เมื่อทนไม่ไหว ก็จะ เกิดการร้องเรียน ผู้บังคับบัญชา หรือ ยิงผู้บังคับบัญชา หรือ ลาออกไป หรือแม้กระทั่ง ยิงตัวตาย…..

ผู้มีอำนาจ และ ผู้บังคับบัญชาของ ตร. มักจะกล่าวมาโดยตลอดว่า….งานสอบสวน ถือว่าเป็นหัวใจ ของ สถานีตำรวจ เป็นงานหลัก และ สำคัญยิ่งขององค์กรตำรวจ หน่วยงานใดจะยื้อแย่ง ไปไม่ได้…..แต่ในยุค ทหารครองเมือง กลับ ออกคำสั่ง ยกเลิก แท่งเลื่อนไหล ในการเจริญเติบโตของพนักงานสอบสวน ที่ผ่านการประชุม พิจารณา จาก คณะกรมการ ที่เป็น ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ มาระดมความคิด ใน การ แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนางานสอบสวนมาเป็นอย่างดี จนเป็นที่ยอมรับ และ เป็น ขวัญกำลังใจกับพนักงานสอบสวน เป็นอย่างยิ่ง….แต่ กลับ ถูก ยกเลิก ไป ภายใต้ คำถาม และ ความไม่เข้าใจ รวมทั้งความเสื่อมศรัทธา จากพนักงานสอบสวน กับ ผู้มีอำนาจ และ กับ ผู้บังคับบัญชาของ ตร.บางนาย….

จากปัญหา ที่เกิดขึ้นกับ องค์กรตำรวจ และ ข้าราชการตำรวจ ที่เกิดขึ้น ได้ก่อให้เกิดการเรียกร้อง และ วิพากษ์ วิจารณ์ จากประชาชน / สื่อมวลชน และ ข้าราชการตำรวจ โดยภาพรวม ให้มีการ แก้ไข ปรับปรุง และ พัฒนา ในรูปแบบการ….ปฏิรูปตำรวจ….ให้เป็นตำรวจ ของประชาชนจริง ๆ ….รวมทั้ง ได้รับความเมตตา กรุณา จาก ….ท่าน….และ อดีต ผู้บังคับบัญชาของ ตร. หลายท่าน ที่รัก และ ห่วงใย องค์กรตำรวจ และ ข้าราชการตำรวจ ได้ ออกมาเรียกร้อง แสดง ความคิดเห็น ในเชิงเสนอแนะ แนะนำ แนวทางแก้ไขปัญหา อย่างตรวจุด ตรงใจ และ ปฏิบัติได้จริง เพื่อผลประโยชน์ ของประชาชน สังคม และ ข้าราชการตำรวจ โดยภาพรวม ภายใต้กรอบของ กฏหมาย และ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อมาผู้มีอำนาจ ในยุคนั้น ได้ มีการ ยกร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฉบับปฏิรูป นำมาใช้ แต่ เมื่อพิจารณาเนื้อในแล้ว ก็ยังคงอำนาจของฝ่ายการเมือง และ ผู้มีอำนาจ อยู่ เหมือนเดิม…

สำหรับการออก คำสั่งนายกรัฐมนตรี ในการตั้งคณะกรรมการ ในการ ปรับปรุง งานสอบสวน ที่มี..ท่าน เป็นประธาน และ มี คณะกรรมการ เมื่อพิจารณาจาก รายชื่อแล้ว.. ทำให้ ข้าราชการตำรวจ และ พนักงานสอบสวน เกิดความเชื่อมั่น และ มั่นใจว่า งานสอบสวนจะต้องดีขึ้น อย่างแน่นอน ….แต่ก็ลุ้นลึก ๆ ว่า… ผู้มีอำนาจ จะเห็นด้วยกับ ข้อเสมอแนะ ของประธาน และ คณะกรรมการ ชุดนี้ ไม่นำความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ….เก็บใส่ลิ้นชัก….ไว้โดยไม่นำมาปฏิบัติจริงครับ.

ตอนที่ 2

ความตัองการ กับการกระทำ ที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ มีความย้อนแย้ง กัน……ดั่งจะเห็นในกรณี ที่ ผู้มีอำนาจ มักจะพูดอยู่เสมอว่า …ต้องทำให้ ตำรวจ เป็นตำรวจของประชาชน และ ปราศจากการ แทรกแซง ทางการเมือง….. แต่สิ่งที่ ได้ รับรู้ และ ที่เห็น กลับ กลายเป็นตรงกันข้าม..

ประเทศไทย มีกระบวนการยุติธรรม ที่สำคัญ คือ ตำรวจ / อัยการ และ ศาล …แต่เหตุใด กระบวนการยุติธรรม กลางน้ำ และ ปลายน้ำ คือ อัยการ และ ศาล ได้รับการดูแล จากผู้มีอำนาจ เป็นอย่างดี โดยให้เป็นองค์กรอิสระ มีสวัสดิการ และ การแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นธรรม โดยการเมือง และ ผู้มีอำนาจ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ส่งผลให้ ไม่มีปัญหาการถูกวิพากษ์ วิจารณ์ เรื่อง ต่าง ๆ ให้เกิดความเสื่อมเสีย แต่อย่างใด และยัง ได้รับการยกย่องว่า มีระบบการแต่งตั้ง โยกย้ายที่ดี มีความเป็น ธรรม พร้อมกับ ผู้มีอำนาจ ได้ดูแลสวัสดีการ และ เงินเดือน อย่างเต็มที่ โดยให้เหตุผลว่า เมื่อ. ..ท้องอิ่ม ปัญหาการแสวงหาผลประโยชน์ หรือ สร้างความเดือดร้อน กับประชาชน จะไม่เกิดขึ้น…

องค์กรตำรวจ ได้รับการเปรียบเทียบว่า เป็นต้นธารกระบวนการยุติธรรม ที่มีความสำคัญ แต่กลับถูกละเลย จาก ผู้มีอำนาจ ในการดูแลสวัสดิการด้านต่าง ๆ เช่น เงินเดือน และ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะต้องทำงานภายใต้ ความขาดแคลน …. และ โดยเฉพาะ เรื่องการ แต่งตั้งโยกย้าย ที่มี ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ..ถึงแมัปัจจุบัน จะมีการกล่าวอ้างว่า มีการปฏิรูป ตำรวจแล้ว แต่ถามว่ามีความ ครบถ้วน สมบูรณ์แล้ว หรือไม่. ผู้มีอำนาจ และ การเมืองแทรกแซง การแต่งตั้ง โยกย้ายได้หรือไม่ ซึ่งผมเชื่อว่า ผู้มีอำนาจ และ ผู้บังคับบัญชา รับรู้ รับทราบ เป็นอย่างดี….จะสังเกตว่า เมื่อมีการแต่งตั้ง โยกย้าย ข้าราชการตำรวจเมื่อไหร่ จะมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ จากประชาชน สังคม และ สื่อมวลชน เสมอ ๆ และ สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน จะมีข้าราชการตำรวจบางส่วน จะ ร้องทุกข์
ขอความเป็นธรรม มาเป็นระยะ ๆ …

ถามว่า ผู้มีอำนาจ ไม่ทราบ หรือว่า ปัญหาของ องค์กรตำรวจ คืออะไร และ จะแก้ไข ให้ดีขึ้น อย่างไร…..ผม เชื่อว่า รับรู้ รับทราบเป็นอย่างดี แต่ปัญหา อยู่ที่ว่า….จะทำหรือไม่ทำ….เท่านั้นเอง

ตามที่….ท่าน…และ อดีตผู้บังคับบัญชาหลายท่าน ที่รัก และ ห่วงใย องค์กรตำรวจ ได้ กรุณา ช่วยกัน นำเสนอปัญหา ขององค์กรตำรวจ พร้อม มีข้อเสนอแนะ และ แนวทางแก้ไขปัญหา ที่สามารถปฏิบัติได้จริง เห็นผลเป็นรูปธรรม ไว้เรียบร้อยแล้ว…. ผม พี่ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ข้าราชการตำรวจ ได้ แต่ คาดหวัง และ ภาวนา ว่า ผู้มีอำนาจ จะ นำข้อมูลดังกล่าว มาใช้ ในการแก้ไข ปรับปรุง และ พัฒนา ให้ดีขึ้น และ สอดคล้องกับ กระบานการยุติธรรมอื่น ๆ เพื่อให้ องค์กรตำรวจ และ ข้าราชการตำรวจ มีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี และ ที่สำคัญ ….ให้เป็นตำรวจ ของ ประชาชน….จริง ๆ เสียที ครับ.

ขอขอบคุณและขอชื่นชมนายตำรวจท่านนี้เป็นอย่างยิ่ง และขอปวารณาว่าจะทำหน้าที่ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิอย่างเข็มแข็งต่อไปครับ ”ข้อความเฟสบุค พล.ต.อ.เอก ระบุ“

คลิ๊กอ่านFB ดังกล่าวได้ที่นี่

https://www.facebook.com/share/p/2byDBTSJJip51YgS

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์