ปฏิรูปครั้งใหญ่!! “สมศักดิ์”ดัน พรบ.สาธารณสุข แยกกระทรวงหมอจาก กพ.

133

“สมศักดิ์“เร่งผลักดันร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการ สธ.แยกตัวออกจากก.พ. ให้เสร็จสิ้นมีผลบังคับใช้ในปี 2568 ชี้เป็นการปฏิรูปสธ.ครั้งใหญ่ เตรียมสรุปผลการรับฟังความเห็นเสนอครม.ก่อนส่งต่อให้กฤษฎีกาตรวจ

วันที่ 16 ก.ค. น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รมว.สาธารณสุข ได้ทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกระทรวงอย่างมีนัยสำคัญด้วยการขับเคลื่อนให้มีการออก พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการสาธารณสุข และบุคลากรสาธารณสุข โดยสาระของร่างพ.ร.บ.คือการมุ่งสร้างขวัญและกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล อัตรากำลัง และค่าใช้จ่ายภาครัฐ ลดข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาคาราคาซังมาเป็นเวลานาน โครงสร้างการบริหารงานจะปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่เพื่อสามารถบริการประชาชนรวดเร็วขึ้น กล่าวโดยสรุป เป็นการแยกตัวออกมาจากการสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.

น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำร่างพ.ร.บ.กระทรวงสธ. โดยมีหน่วยงานภายในและภายนอก อาทิ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วม

โดยจะมีการเปิดการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม-6 สิงหาคม 2567 จากนั้นวันที่ 10 สิงหาคม 2567 จะสรุปความเห็นจากการรับฟังในแต่ละประเด็น จัดประชุมคณะอนุกรรมการและคณะกรรมการ เพื่อให้ได้ร่างพ.ร.บ.ที่สมบูรณ์ จัดทำรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบ เปิดเผยสรุปผลการรับฟังความเห็นและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ ภายในวันที่ 15 สิงหาคม สามารถนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการสธ.และนำเสนอต่อคณะรัฐมนต0ได้รี จากนั้นในเดือนกันยายน คณะรัฐมนตรีจะเสนอร่างพ.ร.บ.ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เมื่อผ่านขั้นตอนนี้ รัฐบาลถึงจะเสนอร่างพ.ร.บ.ให้สภาผู้แทนฯและวุฒิสภาพิจารณาตามกระบวนการทางนิติบัญญัติ

“รัฐมนตรีสมศักดิ์ ให้ความสำคัญกับบุคลากรของกระทรวงสาธราณสุขมาก เพราะทำงานกันอย่างทุ่มเท ดูแลชีวิตประชาชนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จึงต้องการตอบแทนความทุ่มเทเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน การปรับโครงสร้างใหญ่ครั้งนี้เปรียบเสมือนการปฏิรูประบบการบริหารจัดการองค์กร การออกจากสังกัดก.พ.จะทำให้การปฏิบัติงานทั้งอัตรากำลังที่มีประมาณ 400,000 – 500,000 คน งบประมาณ ค่าใช้จ่ายที่จะลดลง มีความคล่องตัวของบุคลากรที่กระจายอยู่ใน 12 เขตบริการ เกิดประโยชน์ในการให้บริการประชาชน และจะผลักดันกฎหมายฉบับนี้ใให้สำเร็จในรัฐสภาภายในปี 2568 นี้” นางสาวตรีชฎา กล่าว

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวสุขภาพสิ่งแวดล้อม