“ศาสตรา” เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทางวินัยกับ ผอ. รร.ดังหาดใหญ่ และพวก ปมทุจริตเงินค่าอาหารกลางวัน และเงินอุดหนุนเด็กนักเรียน และขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะทำให้นักเรียนและผู้ปกครองเกิดความหวาดกลัว พร้อมเรียกร้องเจ้าอาวาสผู้รับใบอนุญาตรับผิดชอบด้วย
ที่อาคารรัฐสภา วันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ เแถลงข่าว กรณีตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ดำเนินคดีกับ ผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน และหัวหน้าฝ่ายบริหารงานงบประมาณ รวม 4 คน โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ข้อหาทุจริตค่าอาหารกลางวันนักเรียน มูลค่าความเสียหาย 2.19 ล้านบาทว่า ในฐานที่เป็นสส.พื้นที่ และเป็นคนรับเรื่องร้องเรียนจากคุณครูและผู้ปกครอง เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ก่อนประสานงานเก็บรวบรวมพยานหลักฐานจากทุกฝ่าย ทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง ไปแจ้งความดำเนินคดี
กระทั่งเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตำรวจได้มีออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาไปรับทราบข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อยซึ่งต้องขอขอบคุณ พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และพล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ที่ไม่ทนต่อการทุจริตงบประมาณที่เกี่ยวกับเด็ก ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาชาติบ้านเมือง เป็นที่พึ่งให้ประชาชน
นายศาสตรา รียกร้องให้หน่วยงาน ผู้รับใบอนุญาต และ ต้นสังกัด ดำเนินการทางวินัยและปกครองด้วยความเฉียบขาด รวมทั้งเจ้าอาวาสวัดซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาต ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ครู เด็ก และ ผู้ปกครอง และเรียกร้องให้ผู้บริหารที่ตกเป็นผู้ต้องหาหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือปรับเปลี่ยนไปทำหน้าที่อื่นจนกว่าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้
“วันนี้ ถึงแม้ว่าจะมีหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ทว่าตัวผู้อำนวยการและผู้บริหารที่ร่วมกระทำการทุจริตยังนั่งบริหารโรงเรียนตามปกติ โดยไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด จึงมีคำถามเกิดขึ้นตามมาว่า สมควรหรือไม่ที่ผู้ต้องหายังทำงานอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ได้ส่งผลให้ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่บางส่วนของโรงเรียนเกิดความกังวลและหวาดกลัว จึงมอบหมายให้ผมมาติดตามเรื่องนี้ต่อ และยิ่งไปกว่านั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนเอกชนที่เจ้าอาวาสรับใบอนุญาต เหตุใดผู้ถือใบอนุญาตยังปล่อยให้ผู้บริหารคนนี้ยังทำงาน และดูแลเยาวชนคนไทยอยู่ ทั้งที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตแล้ว”
นายศาสตรา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพฤติการของผู้บริหารคนดังกล่าวเพิ่มเติม ยังพบหลักฐานมูลความผิดทางอาญา ในการณีการทุจริตเงินวัดอีกหลายคดี ซึ่งทำกันเป็นขบวนการอีกด้วย จึงขอฝากไปยังกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน จ.สงขลา และ ทั่วประเทศให้คอยติดตาม ตรวจสอบเรื่องทุจริตเกี่ยวกับเด็กและ โรงเรียนอย่างเข้มงวดด้วย ส่วนตนเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็จะติดตามตรวจสอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทุจริตในสถานศึกษาทั่วประเทศอีกเช่นเดียวกัน
