“ยอมแล้วครับนาย” “ทวี“คุย”แป้ง นาโหนด”เจ้าตัวสารภาพ-จ่อบินรับกลับไทยเตรียมคุกขัง

491

”รมว.ทวี“ได้คุยกับ”แป้ง นาโหนด”เจ้าตัวเจ้าตัวรับสภาพ“ยอมแล้วครับนาย”ขณะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย บินเจรจากับทางการอินโดนีเซีย เพื่อขอนำตัวกลับมารับโทษแล้ว ด้าน “อธิบดีราชทัณฑ์ ” เตรียมเรือนจำความมั้นคงสูงขัง”แป้ง นาโหนด” ยันไม่ส่งตัวกลับเรือนจำนครฯ

วันที่ 31 พ.ค.67 ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังตำรวจอินโดนีเซียจับกุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ได้ ตั้งแต่เมื่อวานนี้( 30 พ.ค.) มีข้าราชการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ไปประสานงานกับอินโดนีเซีย เพื่อรับตัว แป้ง นาโหนด กลับมาดำเนินคดีในไทยแล้ว

ส่วนขั้นตอนอย่างเป็นทางการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธฺุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประสานงานกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซีย โดยในช่วงบ่ายวันนี้( 31 พ.ค.) อาจจะมีการพูดคุยเรื่องกำหนดการเดินทาง ซึ่งวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้ตนมีกำหนดการที่จะต้องเดินทางไปประชุมเรื่องความร่วมมือที่ประเทศอินโดนีเซียอยู่แล้ว และตอนนี้ก็อยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานเพื่อนำตัว แป้ง นาโหนด กลับมาประเทศไทย

สำหรับ ประเด็นการเจรจานำตัว แป้ง นาโหนด กลับมา ซึ่งก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าจะไม่สามารถนำตัวกลับมาได้ทันที เพราะอาจจะต้องถูกดำเนินคดีที่ประเทศอินโดนีเซียก่อน นั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุ พียงว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรติดขัด เบื้องต้นทางประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่าจะสามารถให้รับตัว แป้ง นาโหนด กลับมาได้ภายในวันอาทิตย์นี้ ส่วนจะเป็นวันไหนขอไม่ระบุ แต่ยืนยันว่าจะนำตัวกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยจะนำตัวมารับโทษที่กรุงเทพฯ แต่จะเป็นเรือนจำไหนยังไม่มีความชัดเจน

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีบทเรียนในการควบคุมตัวอยู่แล้ว ส่วนจะต้องมีการเปลี่ยนชุดดูแลและควบคุมตัวหรือไม่ระบุว่า ตำรวจที่ไปก็เป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า เเรือนจำมีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุนักโทษฆ่าตัวตาย แต่เนื่องจากราชทัณฑ์มีนักโทษจำนวนมาก จะให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเป็นไปไม่ได้เลย แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจด้วย

ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่า แป้ง นาโหนด จะถูกเก็บ พ.ต.อ.ทวี ย้ำว่า เราต้องคุ้มครองทุกฝ่ายในช่วงที่ แป้ง นาโหนด กระทำผิดและไม่ได้รับความเป็นธรรมตามที่เจ้าตัวเคยพูดไว้ ซึ่งเป็นเพียงข้อมูล และมีการตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งตอนนี้ตัวแป้ง นาโหนด เองเป็นประจักษ์พยาน

สำหรับขั้นตอนการนำตัว แป้ง นาโหนด กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้นเบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ว่าจะใช้เครื่องบินพาณิชย์ ไปรับหรือไม่ และเมื่อนำตัวกลับมาแล้วจะเปลี่ยนสถานที่คุมขังเป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีอยู่ทั้งหมดห้าแห่ง แต่จะไม่ส่งตัวกลับไปที่เรือนจำนครศรีธรรมราชอีก เนื่องจากอาจมีผู้คอยให้การช่วยเหลือได้

สำหรับขั้นตอนการรับตัวนั้น เมื่อนำตัวกลับมายัง ประเทศไทยแล้ว ตำรวจจะนำตัวไปสอบสวนและนำตัวไปฝากขัง ซึ่งอาจเป็นพนักงานสอบสวนในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราช เนื่องจาก ในพื้นที่พัทลุง แป้ง นาโหนด มีคดีพกพาอาวุธปืน พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งศาลได้พิพากษาจำคุกตลอดชีวิตแล้ว ส่วนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมี ข้อหาหลบหนีจากที่คุมขังและพกพาอาวุธปืน ซึ่งเป็นคดีใหม่ แต่อาจพิจารณาโอนคดีมายังส่วนกลางได้และอาจให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษต่อไป

ส่วนกรมราชทัณฑ์ก็จะต้องพิจารณาว่าจะใช้สถานที่คุมขังใด เพื่อไม่ให้ผู้ถูกคุมขังหลบหนีและไปก่อเหตุร้าย ซึ่งจะพิจารณาใช้เรือนจำความมั่นคงสูงที่มีมีอยู่ทั้งหมด5 แห่งในประเทศไทย แต่จะไม่ส่งกลับไปที่เรือนจำนครศรีธรรมราช เนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้คอยให้ความช่วยเหลือ และใช้อดีตเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำสองอีก

ส่วนกรณีที่ แป้ง นาโหนด ได้ร้องขอความเป็นธรรมก่อนหน้านี้นั้น ทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และจะให้ความเป็นธรรม ภายหลังจากนำตัวกลับมาแล้วก็จะนำตัวมาสอบปากคำ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในประเด็นอื่นๆ ต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีชาวอินโดนีเซียให้การช่วยเหลือ แป้ง นาโหนด ในการหลบหนี ต้องให้ทางการอินโดนีเซียเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง แต่เชื่อว่า แป้ง นาโหนด ไม่สามารถดำเนินการคนเดียวได้ถ้าไม่มีต่างชาติให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการปลอมบัตรประชาชน การอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรู หรือการเดินทางไปยังเกาะบาหลี

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วานนี้ที่ได้พูดคุยกับ แป้ง นาโหนด พอเห็นหน้าตนก็กล่าวว่า ‘ผมยอมแล้วครับนาย จบแล้วเรื่องการหนี’ ซึ่งกล่าวได้สองสามประโยค ไม่ได้พาดพิงใคร

ส่วนกรณีที่นายชวลิตถูกประชิดตัวจนถูกจับกุมได้ในที่สุดนั้น พ.ต.อ.ทวี มองว่า เป็นความประมาทของ แอป้ง นาโหนด เอง แต่ยอมรับว่าการติดตามตัวมีความยากพอสมควร เนื่องจากแป้ง นาโหนด ใช้ชื่อบุคคลอื่นในการจอง โดยใช้ชื่อหนึ่งบุคคลจองที่พักหลายห้อง และเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ ส่วนไทม์ไลน์การหลบหนีนั้น ยังขอไม่เปิดเผยเนื่องจากข้อมูลยังไม่ชัดเจนขอให้รอผลการสอบสวนจากทางตำรวจก่อน

ส่วนกรณีที่มีตำรวจหญิงเปิดเผยข้อมูลที่อยู่ของ แป้ง นาโหนด ที่อินโดนีเซีย จนเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้นั้น เป็นเรื่องในสำนวนคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผล

“อธิบดีราชทัณฑ์ ” เตรียมเรือนจำความมั้นคงสูง ขัง”แป้ง นาโหนด” ยันไม่ส่งตัวกลับเรือนจำนครฯ เผยหากไม่ล้มหมอน นอนเสื่อ ไม่ส่งรักษาโรงพยาบาลนอกเรือนจำ

จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เข้ารายงานต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นการด่วน เนื่องจากได้รับรายงานจากทางการประเทศอินโดนีเซียว่า สามารถทำการจับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” ผู้ต้องขังระหว่างอุทธรณ์ฎีกาที่ถูกขังในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และได้หลบหนีไปจากการควบคุมระหว่างการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 22 ต.ค. 66 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางการไทยอยู่ระหว่างประสานการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากเมืองหลวงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย มายังประเทศไทย เพื่อเตรียมดำเนินคดีฐานหลบหนีระหว่างการคุมขังตามคำสั่งศาล ทั้งยังมีรายงานว่า รมว.ยุติธรรม เตรียมนำคณะทำงานเดินทางไปประเทศอินโดนีเชียในวันที่ 31 พ.ค. ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่กระทรวงยุติธรรมนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังหลังตำรวจอินโดนีเซียจับกุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนดว่าเบื้องต้นจะไม่นำตัว แป้งนาโหนด กลับไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะต้องคำนึงถึงความมั่นคงและปลอดภัย ส่วนจะเข้าไปขังเรือนจำใดก็จะต้องเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง ซึ่งปัจจุบันมี 5 แห่งในประเทศ อาจจะต้องพิจารณาเรือนจำใดเรือนจำหนึ่ง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นเรือนจำในพื้นที่ภาคใต้หรือเปล่านายสหการณ์ บอกว่า เรือนจำที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อยกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยปกติแล้วนักโทษที่หลบหนี นอกจากจะถูกดำเนินคดีทางอาญาแล้ว ยังต้องถูกดำเนินการตามระเบียบวินัยของเรือนจำ คือลดประโยชน์หรือจำกัดอิสรภาพมากกว่านักโทษคนอื่น เช่นจำกัดการเยี่ยมญาติ สำหรับการต่อสู้คดีของ แป้ง นาโหนด หลังจากนี้ราชทัณฑ์ไม่สามารถตัดโอกาสตรงนี้ของตัวผู้ต้องขังได้หรือแยกคุมขังเดี่ยว เนื่องจากต้องคำนึง ถึงความปลอดภัยของตัวนักโทษ และนักโทษไม่ก่อเหตุรายอื่น

ส่วนกรณีของ แป้ง นาโหนด จะซ้ำรอยของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่มีการช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกให้หลบหนีออกจากศาลนายสหการณ์ บอกว่าหลังจากนี้จะมีการนำตัว แป้ง นาโหนดไปอยู่ในเรือนจำที่มีระบบความปลอดภัยสูง โดยปกติแล้วนักโทษที่มีคดีอุกฉกรรจ์เราจะระทัดระวังเป็นอย่างมาก ฉะนั้นการอยู่เรือนจำ 100% จะไม่สามารถหลบหนีได้

ส่วนหากต้องนำตัว แป้ง นาโหนด ขึ้นศาลจะต้องมีมาตรการอย่างไรนั้นเพื่อป้องกันการแหกคุกนายสหการณ์ บอกว่า มี 2 มาตรการ อาจใช้ ระบบ Video Conference และหากจำเป็นต้องนำตัวไปศาลอาจเพิ่มมาตรการคุมเข้ม เข้มงวด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นายสหการณ์ บอกต่อว่า หากหลังจากนี้ แป้ง นาโหนด เจ็บป่วย ไม่ถึงขั้นล้มหมอน นอนเสื่อ ซึ่งปกติแล้วในเรือนจำมีสถานพยาบาลขั้นปฐมภูมิ และมีแพทย์ทำการตรวจรักษา ภายในเรือนจำได้ และขณะนี้ยังไม่รับรายงานว่า แป้ง นาโหนดป่วยแต่หากนำตัวกลับมา แล้วมีอาการป่วย จะต้องนำตัวไปรักษานอกเรือนจำหรือไม่ นายสหการณ์ ระบุว่า ตั้งแต่แป้ง นาโหนด หลบหนีออกไป ขณะนั้นอ้างเหตุ รักษาฟัน ซึ่งหมอนัดไปที่โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช นี่คือเหตุที่นำไปสู่การหลบหนี และก่อนหน้านี้ แป้ง นาโหนดยังอ้างว่าตกจากที่สูงจนทำให้เป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จึงต้องออกไปรักษาตัว ข้างนอกอย่างต่อเนื่อง ยอมรับว่าเป็นจุดที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น หากไม่ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ ก็ไม่จำเป็นต้องไปรักษาโรงพยาบาลข้างนอก

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรมวันนี้