“เศรษฐา”เผยจับแล้ว”แป้ง นาโหนด”หลังหนีกบดานอินโดฯ

699

“นายกฯเศรษฐา” โพสต์ X ระบุ ได้รับรายงานจาก รมว.ยุติธรรม จับ “แป้ง นาโหนด” นักโทษหนีคดีได้แล้ว ประสานความร่วมมือกับทางการอินโดนีเซีย

วันที่ 30 พ.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่าน  X ระบุว่า ได้รับรายงานจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า “แป้ง นาโหนด” นักโทษหนีคดี ถูกจับกุมตัวแล้ว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกับทางการอินโดนีเซียครับ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า  เมื่อเวลา 12:15 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้ารายงาน ความคืบหน้าการจับกุม แป้งนาโหนด นักโทษหนีคดี ต่อนายกรัฐมนตรีบนตึกไทยคู่ฟ้า โดยได้ขึ้นรายงาน เกือบ 1 ชั่วโมง จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ทางรัฐบาล และทางการอินโดนีเซียได้ทำการจับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด ได้ที่บาหลี และในวันพรุ่งนี้จะประสานเพื่อรับตัวกลับมาจากจากาตาร์

สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเมื่อวันศุกร์ – เสาร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ให้ตนเองบินไปที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อประสานกับทางการ พร้อมกับมีคาดการณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม หรือกรมราชทัณฑ์ ป.ป.ส. และอธิบดีดีเอสไอ รวมถึงมอบพลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการต่างประเทศ เนื่องจากนายเชาวลิต จากประเทศไทย ได้ปลอมแปลงพาสปอร์ต เข้าประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่อย่างระมัดระวัง โดยจะอาศัยอยู่ที่เมืองเมดัน บาหลี และอีกหลายแห่ง ซึ่งทางตำรวจอินโดนีเซียให้ความร่วมมืออย่างอย่างดียิ่ง จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการจับกุมตัวได้ และเมื่อสักครู่ได้มีการวิดีโอคอลกับตนเอง เพื่อสอบปากคำ ซึ่งยืนยันว่าเป็นตัวจริง

พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ต้องขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กระทรวงยุติธรรม และได้ตั้งดีเอสไอ ป.ป.ส. หน่วยงานราชการติดตามมาตลอด จนกระทั่งได้เบาะแส และที่สำคัญอย่างยิ่ง อาจได้เครือข่ายอาชญากรรมเกี่ยวกับยาเสพติดที่เราไปสืบมา ซึ่งงานเป็นการร่วมมือกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานงาน ย้ำว่า เราติดตามเรื่องนี้มาตลอด โดยเฉพาะมีผู้หญิงหลายคนบินไปหา ซึ่งไม่ใช่คนในครอบครัว และโยงไปถึงการจับคนอินโดนีเซียไปเรียกค่าไถ่เมื่อเร็ว ๆ นี้ด้วย แต่ในเรื่องรายละเอียด ขอให้เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน ซึ่งหากนำตัวมาแล้วจะมีข้อมูลมากกว่านี้

ส่วนขั้นตอนการรับตัว ต้องรอดูว่าทางประเทศอินโดนีเซีย จะมีขั้นตอนทางกฎหมายหรือไม่เนื่องจากว่ามีการถือหนังสือเดินทางปลอม ก่อนหน้านี้ก็เคยโดนตรวจหลายครั้ง แต่แกล้งเป็นคนใบ้ ไม่สามารถสื่อสารได้

พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า การสืบสวนเริ่มมาจากฝั่งประเทศไทย และเพิ่งประสานทางประเทศอินโดนีเซียให้ทราบ โดยต้องยอมรับในความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซีย ตนเองได้เดินทางไป 2 – 3 วัน ดูวิธีการสืบสวนสอบสวนของอินโดนีเซีย ถือว่ามืออาชีพ และขอให้มั่นใจว่าจะทำอย่างเต็มที่ ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งช่วงหลังมานี้ มีการประสานกับทางการอินโดนีเซียในเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด ถือเป็นความร่วมมือที่ดี ยืนยันว่า เราทำงานเต็มที่หลังจากคว้าน้ำเหลวในการปิดล้อม เราก็ได้ติดตาม ซึ่งต้องยอมรับว่านายเชาวลิต เป็นมืออาชีพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากอินโดนีเซียก็บอกว่าเขาเป็นมืออาชีพ การจับกุมได้ที่บาหลี เนื่องจากว่า นายเชาวลิตเดินทางไปเที่ยว เพราะรู้สึกสบายใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พักที่คอนโดขนาดใหญ่ในเมืองเมดัน และนายเชาวลิต ยอมรับการจับกุม เขาจนมุมแล้ว และเราได้บอกให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมรับรองเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเขาไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจว่าถูกจับได้ เพราะคิดว่าเป็นยุคที่เขาปลอดภัยที่สุด จึงเดินทางไปเที่ยว โดยก่อนถูกจับกุมนายเชาวลิต ไปเที่ยวบาหลี และทะเลาะกับผู้หญิงชาวอินโด จึงเป็นที่มาของการจับกุม

ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีการปิดล้อมเพื่อจับกุมตัวนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เราก็สงสัยว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ไม่ทราบว่าเป็นที่ไหน และให้ผู้เชี่ยวชาญก็วิเคราะห์ว่าไม่ใช่ในพื้นที่ใต้

ทั้งนี้ มีรายงานว่า กรณีนี้การจับกุมยังไม่ได้รับการยืนยันเป็นเอกสาร ผู้ประสานงานของกองการต่างประเทศ (Interpol Thailand) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รับผิดชอบประเทศอินโดนีเซีย ได้สอบถามกับผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจของอินโดนีเซียที่ประจำการในประเทศไทย ได้รับคำยืนยันว่ามีการจับกุมตัว “แป้งนาโหนดแล้ว” ข้อมูลอัพเดทล่าสุดที่เขาได้รับคือ ทางไทยสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการผลักดันกลับประเทศไทย เบื้องต้นได้รับรายงานว่า อินโดนีเซียอาจส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีที่ไทย

สำหรับ แป้ง นาโหนด หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37  ปี  นักโทษหนีคดี เป็นชาว ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง ถือเป็นบุคคลที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมราชทัณฑ์ ต้องการตัวมากที่สุด หลังแหกคุก ปลดตรวนหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมีลูกสมุนหลายคนให้การช่วยเหลืออำนวยความสะดวก โดยแป้ง นาโหนด เคยอัดคลิปวิดิโอและโพสต์ลงในโซเชียลแฉ กระบวนยุติธรรม ก่อนจะหนีลอยนวลหายเข้ากลีบเมฆ เบาะแสล่าสุดทราบเพียงว่า เสี่ยแป้งหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว

มีรายงานว่า กรณีนี้การจับกุมยังไม่ได้รับการยืนยันเป็นเอกสาร ผู้ประสานงานของกองการต่างประเทศ (Interpol Thailand) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รับผิดชอบประเทศอินโดนีเซีย ได้สอบถามกับผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจของอินโดนีเซียที่ประจำการในประเทศไทย ได้รับคำยืนยันว่ามีการจับกุมตัว “แป้งนาโหนดแล้ว” ข้อมูลอัพเดทล่าสุดที่เขาได้รับคือ ทางไทยสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการผลักดันกลับประเทศไทย เบื้องต้นได้รับรายงานว่า อินโดนีเซียอาจส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีที่ไทย

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 พ.ค.นายสหการณ์ เพ็ชร์นรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงขั้นตอนกานดำเนินการกับนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด หลังถูกจับกุมที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังต้องประสานการก่อนว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดอะไรบ้าง ในประเทศอินโดนีเซีย และทางประเทศต้นทางจะดำเนินการแจ้งข้อหาหรือดำเนินคดีอย่างไร

สำหรับขั้นตอนการรับตัวผู้ร้ายข้ามแดน จะเป็นไปตามกระบวนการปกติ เมื่อกลับมายังประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบสวน ตามกระบวนการ และแจ้งข้อหาเพิ่มในกรณีหลบหนีที่คุมขัง โดยโทษในกรณีนี้จะต้องรวมกับโทษเดิมที่ถูกตัดสินมาตั้งแต่ต้น กรมราชทัณฑ์เป็นกระบวนการขั้นปลายทาง ต้องรอให้ขั้นต้อนการสอบสวน ขั้นตอนพิจารณาคดีเสร็จสิ้น จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ แต่ในเบื้องต้นการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะดูแลร่วมกับตำรวจ
//////////

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #แป้งนาโหนด #ข่าวอาชญากรรมวันนี้