ที่สภ.รัตนบุรี จว.สุรินทร์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ นายพรพจน์ บัณทิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการ จว.สุรินทร์ และนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อประชุม รับฟังบรรยายสรุป ปัญหาการลักลอบตัดไม้ ใน”สวนป่าห้วยแก้วโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” โดยมีเจ้าหน้าที่สวนป่าห้วยแก้ว บรรยายสรุปให้ผู้ที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.,ตชด.21 ,เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้สั่งการในที่ประชุมให้ทุกหน่วยร่วมกันบูรณาโดยให้ดำเนินการตามขั้นของกฏหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เอาผิด ต่อผู้ตัดไม้รวมถึงผู้มีส่วนร่วมในการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่สวนป่าโครงการพระราชดำริฯ ดังกล่าว ภายหลังประชุมเสร็จได้ชาวบ้านในพื้นที่ได้นำหลักฐานและรายเลียดการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่มามอบให้แก่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมคณะและกล่าวขอบคุณ ที่ลงมาแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง
จากนั้นคณะ พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้เดินทางไปตรวจพื้นที่ สวนป่าห้วยแก้ว โครงการพระราชดำริฯ ที่ถูกลักลอบตัดไม้ พบต้นยูคาลิปตัส ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 20 นิ้ว จำนวน 180 ต้น ถูกตัดทิ้งใว้เพื่อเตรียมชักลากออกนอกพื้นที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้สั่งการให้ พนักงานสอบสวน สภ.รัตนบุรี ทำการตรวจยึดใว้เป็นของกลางเพื่อดำเนินคดี ในขณะเดียวกันได้นำหมายค้นของศาล จังหวัดรัตนบุรี เลขที่ 19/2561 ลงวันที่ 16 ส.ค.2561 เข้าตรวจค้นโรงเลื่อย บริษัทเศรษฐกิจ จำกัด ตั้งอยู่ ม.10 ต.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พบกองไม้ยูคาลิป จำนวน 300 ท่อน มูลค่า 150,000. บาท
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่ตั้งโรงงานและบริเวณโดยรอบของ นายวรรณเวช ศิลารักษ์อุตสาหกรรมจังหวัด และนายสมบัติ อารีย์โชคชัย ที่ดินจังหวัด ยืนยันว่า โรงงานดังกล่าวมีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกรมป่าไม้ได้มอบหมายให้นายสุรพล กลิ่นพันธุ์ ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
ในเวลาต่อมา(16.30 น.) คณะดังกล่าวได้ นำหมายค้นศาลจังหวัดศรีษะเกษ เลขที่ 98/2561 ลงวันที่ 16 ส.ค.2561 เข้าตรวจยึดโรงงานแปรรูปไม้พงษ์สยาม เลขที่ 93 ม.3 ต.คลีกลิ้ง อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ พบไม้แปรรูปโดยไม่รับอนุญาต เป็นไม้ประดู่ 309 แผ่น ไม้ประดู่ท่อน จำนวน 183 ท่อน มูลค่า 2,800,000. บาท ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ศิลาลาด ได้รับคำร้องทุกข์ใว้ตามคดีอาญาที่ 103/2561 ลงวันที่ 16 ส.ค.2561 โดยแจ้งข้อกล่าวหาแก่ หจก.เฮงดี (ประเทศไทย) โดยนายวรพงศ์ ธรรมโม อยู่บ้านเลขที่ 82/33 หมู่ 6 ซ.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้เช่าโรงงานดังกล่าวไว้เพื่อแปรรูปไม้ ในความผิดฐาน “ร่วมกันทำการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้แปรรูปหวงห้ามไว้ในสถานที่รับอนุญาตโดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้ท่อนหวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.อ. ศิวราห์ เปิดเผยว่า ภายหลังมาร่วมกันตรวจสอบก็พบว่า เบื้องต้นผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ และนอกจากนั้นก็จะมี พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรมแปรูปไม้โดยไม่ถูกต้องด้วย ซึ่งในชั้นแรกนี้ก็จะใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ที่พบการกระทำผิด เข้าทำการตรวจยึด เพื่อดำเนินคดี และของกลางเพื่อประกอบคดี สอบสวน ตั้งข้อกล่าวหา ออกหมายเรียก และหากไม่มารายงานตัวเพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ก็ออกหมายจับ เบื้องต้นนี้พบไม้ที่ไม่ถูกต้องเบื้องต้น 120 ลูกบาทเมตร เฉลี่ยลูกบาทเมตรละ 300,000.-บาท ซึ่งตี่แบบอย่างน้อย และรวมทั้งหมดก็ราวๆ 30 – 40 ล้านบาท ที่เป็นมูลค่าความเสียหายในการกระทำผิดครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่มากในประเทสไทย และหากสามารถส่งออกไปได้มูลค่าก็จะเพิ่มขึ้นสูงมากกว่านี้มากกว่าเท่าตัว และเชื่อว่าน่าจะมีนายทุนหนุนหลังอยู่ ซึ่งจะต้องใช้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงต้นตอ โดยลักษณะของการตัดไม้นี้ เราดูจากกายภาพของการตัด ก็น่าที่จะเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของนายทุน ก็จะต้องจับกุมโรงงานในฐานะตั้งโรงงานเลื่อย สับไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตไป ซึ่งภารกิจของกรมตำรวจส่วนใหญ่จะเป็นภารกิจที่สนับสนุนทางกรมป่าไม้ในการดำเนินคดี จับกุม ว่ากันไปตามกฎหมาย
ด้าน นายอรรคพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ทุกครั้งเราจะมีการตรวจสอบแบบเชิงลึกในการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ทั้งการปล่อยปะ ละเลย ทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ปล่อยให้มีการเข้าไปบุกรุกตัดไม้ กระทำผิดในป่า และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของเราเข้าไปเกี่ยวข้องเราก็จะดำเนินคดีโดยเฉียบขาด เด็ดขาด ทั้งทางวินัย และทางอาญา และที่เน้นเป็นอันมากก็คือ ในส่วนที่เป็นป่าในโครงการพระราชดำริฯ เราจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในการปราบปราม การกระทำผิด เราให้ความสำคัญมาก ในกรร๊นี้จากนี้ก็จะดำเนินการตรวจยึด ลากจูงนำไปเก็บไว้ที่ป่าไม้จังหวัด เพื่อการดำเนินคดี จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกำหมายต่อไป
https://youtu.be/Gx3JLvtq6IA
https://youtu.be/74Q5R0frt_g
