ภาพจำรัฐบาลเศรษฐา นายกฯเงา-คุกทิพย์-ข้าว10 ปี..ฯลฯ

585


     รัฐบาลทุกชุดที่เข้าบริหารประเทศ ประชาชนจะมีภาพเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ เก็บไว้ในความทรงจำเสมอ อาทิ ถ้าเอ่ยถึงรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ภาพจำคือ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน หวยบนดิน หนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล และทำสงครามกับยาเสพติด เป็นต้น



      รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภาพจำคือ โครงการจำนำข้าว สู้น้ำท่วมปี 2554  ทุ่มงบ 2ล้านล้านทำรถไฟความสูงแต่พ่ายองค์กรอิสระให้ทำถนนลูกรังให้หมดก่อน และผลักดันกฎหมายนิรโทษสุดซอย เป็นต้น

        รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ภาพจำคือ ประกันสินค้าเกษตร ชั่งไข่ขายเป็นกิโล ขบวนรถพุ่มพวง และเรียนฟรี 12 ปี เป็นต้น

         รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ภาพจำคือ สู้ภัยโควิด โครงการคนละครึ่ง น้ำท่วมให้เลี้ยงปลา ทำประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 ห้ามรณรงค์ และบังคับใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน เป็นต้น


            ครั้นมาถึงยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่ประชาชนคาดหวังว่าจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาเฟื่องฟู ยาเสพติดต้องหมดไป การบังคับใช้กฎหมายต้องมาตรฐานเดียว และมีภาวะผู้นำ


           พอเวลาล่วงเลยมากว่า 10 เดือน ความคาดหวังต่างๆเลือนราง นโยบายต่างๆที่รัฐบาลแถลงไว้ชาวบ้านแทบจะสัมผัสไม่ได้เลยว่าประสบความสำเร็จ ภาพจำดีๆแทบจะไม่มี ภาพแรกที่ชาวบ้านคาใจมากที่สุดคือการกลับมารับโทษของนายทักษิณ ศาลพิพากษาให้จำคุก นายทักษิณถูกคุมตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยังไม่ทันที่เท้าเหยียบคุกเกิดป่วยกะทันหันปางตาย ส่งตัวนอนโรงพยาบาลตำรวจยาว 6 เดือน ได้พักโทษนอนบ้าน


        ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นอภิสิทธิ์ชนของนายทักษิณ ทั้งนายเศรษฐา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และบิ๊กข้าราชการที่เกี่ยวข้อง อธิบายแบบยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมายที่รัฐบาลชุดพล.อ.ประยุทธ์ ปูทางไว้


 ภาพจำที่ 2 นายเศรษฐา เป็นเพียงแค่นายกฯหุ่นเชิด แม้นายเศรษฐาจะออกมายืนยันนอนยันว่าไม่ใช่  มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ  แต่ชาวบ้านรวมถึงพรรคฝ่ายค้านมองไปในทิศทางเดียวกันแล้ว


 ภาพจำที่ 3 รัฐบาลแก้ปัญหาแบบจำจด อย่างนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ 10 เดือนกว่ายังไร้ผล แม้แต่นายเศรษฐายังยอมรับว่าลงพื้นที่ทุกครั้งชาวบ้านร้องว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะขี้ยายังเดินเพ่นพ่านและยาเสพติดยังหาซื้อได้ไม่อยาก


 ภาพจำที่ 4 สินค้าอุปโภคบริโภคพาเหรดขึ้นราคาแบบหยุดไม่อยู่ บางชนิดขึ้นแบบรายวัน ค่าครองชีพพุ่งสูง แต่ค่าแรงขั้นต่ำกลับขึ้นเป็นหย่อมๆ ตัวเลขหนี้เสียพุ่งกระฉูดทุกธนาคาร  พลังงานไร้การวางแผนรับมือส่งผลให้ราคาพุ่งกระฉูด แต่ผลประกอบธุรกิจของกลุ่มพลังงานฟันกำไรอื้อซ่า อาทิ ปตท. 9 เดือน ฟันกำไร 8.08 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 228 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน


ภาพจำที่ 5 กำลังเป็นข่าวที่อื้อฉาวมาพร้อมกับการตอบโต้แบบตาต่อฟันต่อฟัน ระหว่างรัฐบาลกับประชาชนที่เห็นต่างในการนำข้าวสารเก็บ 10 ปี ออกประมูลขาย ให้กับพ่อค้าเพื่อนำไปขายต่อเพื่อบริโภคแต่ภาพวิวาทะไม่ได้จบแค่กินได้หรือกินไม่ได้ กลับมีการต่อจิกซอร์ไปว่ารัฐบาลกำลังปูทางให้น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร เดินทางกลับประเทศ ด้วยการดิสเครดิตว่าการขายข้าวในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมาต่ำกว่าความเป็นจริง ข้าวดีขายเป็นข้าวเน่า


ภาพจำที่ 6  รัฐบาลงัดข้อกับผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ถึงขั้นแกนนำพรรคเพื่อไทยประกาศว่าธปท.เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ภาพขัดแย้งนี้ไม่เป็นผลดีกับประชาชนเลย

ภาพจำที่ 7 นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยืดเยื้อยาวนานจนประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลกำลังเล่นปาหี่ ผัดวันประกันพรุ่ง

  ภาพที่ 8 เป็นภาพจำที่ประชาชนรู้สึกว่าบรรดารัฐมนตรีส่วนใหญ่ล้วนแต่อยู่ใต้อาณัตินายทักษิณ จะทำอะไรต้องเงี่ยหูฟังดูท่าทีว่าจะพึงพอใจหรือไม่ เพราะถ้าพลาดท่ามีโอกาสที่จะถูกเขี่ยพ้นตำแหน่งเสนาบดีได้ง่ายๆ


  นี่คือภาพจำเพียงบางส่วนที่ประชาชนทั่วไปต่างสัมผัสได้  ล้วนแต่เป็นภาพจำที่ติดลบของรัฐบาลเศรษฐาแทบทั้งสิ้น ยังไม่นับรวมภาพจำที่นายทักษิณ เดินสายต่างจังหวัดมีเสนาบดี รวมถึงข้าราชการมาต้อนรับรายงานสถานการณ์ต่างๆเสมือนเป็นผู้นำรัฐบาลเลยทีเดียว

 ส่วนภาพจำที่พอจะกู้หน้ารัฐบาลชุดนี้ได้บ้างคงจะเป็นภาพที่จัดงานเทศกาลสงกรานต์ได้ยิ่งใหญ่ นักท่องเที่ยวต่างชาติทะลักเข้าไทยสื่อโซเซียลนำไปเผยแพร่ทั่วโลก

  นับจากนี้ไปอีก 3 ปีกว่าๆ หากนายเศรษฐาอยากจะนั่งบริหารประเทศให้ครบเทอม ต้องเร่งลบภาพจำในทางลบเหล่านี้ออกโดยเร็ว พร้อมกับสร้างภาพจำใหม่ให้ประชาชนได้เห็นได้สัมผัสได้ว่า นี่คือผลงานของรัฐบาลที่ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง !!!