นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องแทนประชาชนว่า ในปี 2561 อยากให้รัฐบาลปรับนโยบายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีด้านเศรษฐกิจปากท้องเนื่องจากปี 2560 ที่ผ่านมา รัฐบาลมีนโยบายสวยหรูมามากแล้วแต่ประชาชนก็ยังอยู่ในภาวะลำบาก ถูกกดดันจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ แต่การประกอบอาชีพใหม่ทำได้ยากไม่สอดคล้องกลับสถานการณ์ยุคสมัยโลกไอที
นางมัลลิกา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกพื้นที่สรุปตรงกันว่านอกจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำของแพงขึ้นความเป็นอยู่อัตคัดมากขึ้นช่องทางการประกอบอาชีพที่ควรจะได้รับการตอบสนองเชิงนโยบายจากรัฐบาลในทางปฏิบัติก็ยังไม่ประสบความสำเร็จตามที่รัฐบาลโฆษณาไว้
โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย หรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยืนยันว่าเข้าถึงโครงการที่รัฐสนับสนุนส่งเสริมค่อนข้างยากและไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังโฆษณาชวนเชื่อโดยเฉพาะ 1. การเข้าถึงสินเชื่อธนาคารยากมาก มีขั้นตอนซับซ้อน 2.การเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ของกระทรวงการคลังก็ไม่สะดวกและครบถ้วน 3.การทำงานระบบราชการไม่ทั่วถึงขาดการประชาสัมพันธ์ระบบราชการและระบบไอทีไม่พัฒนาและไม่สามารถรองรับยุคสมัยได้
นางมัลลิกากล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งหลายซึ่งกำลังขยับขยายธุรกิจการค้าไปในโลกไอทีออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนั้น ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอย่างจริงจังคือปรับปรุงภาคปฏิบัติขอให้ลดขั้นตอนการติดต่อการเข้าถึงทั้งแหล่งเงิน-แหล่งทุน-แหล่งข้อมูลของกระทรวงที่สนับสนุน ปรับการสื่อสารของข้าราชการให้ใช้ระบบเทคโนโลยีผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ประชาชนใช้ให้เข้าถึงประชาชนให้เกิดความคล่องตัวและประกอบอาชีพได้จริงจังไม่ใช่เพียงโฆษณาชวนเชื่อ