“ผู้ช่วยฯธนายุตม์”ประชุมเร่งรัดการดำเนินการทางวินัยตำรวจที่ทุจริตต่อหน้าที่อย่างเคร่งครัด

366

วันนี้(วันอังคารที่ 26 มี.ค.2567) เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์  ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 6) เป็นประธานในการประชุม“เร่งรัดการดำเนินการทางวินัย ครั้งที่ 2/2567” ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom Meeting)พร้อมด้วย  ผู้แทนหน่วยระดับ รอง ผบช. และ รอง ผบก. ที่รับผิดชอบงานวินัย เข้าร่วมประชุม

โดยมีข้อสั่งการดังนี้ ตามที่ ตร. มีหนังสือที่ 0006.3/359 ลง 25 ม.ค.67 กำชับให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจลงโทษ คณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตลอดจนผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 8/2548 เมื่อ 15 มิ.ย.48 ครั้งที่ 17/2550 เมื่อ 28 พ.ย.50 และครั้งที่ 6/2552 เมื่อ 5 มิ.ย.52 และมติ ครม. เมื่อ 21 ธ.ค.36 ที่ได้กำหนดแนวทางการลงโทษกรณีข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ (ทุจริต ต่อหน้าที่ราชการ) มีระดับโทษไล่ออกจากราชการ การนำเงินที่ทุจริตไปแล้วมา คืนหรือมีเหตุอันควรปราณีอื่นใด ไม่เป็นเหตุลดหย่อนโทษลงเป็นปลดออกจากราชการไปแล้วนั้น จึงขอกำชับให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจลงโทษ คณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตลอดจนผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติ ก.ตร. และมติ ครม. ดังกล่าวโดยเคร่งครัด อีกครั้งหนึ่ง

และ เนื่องด้วย ปรากฏกรณีตัวอย่างของ ภ.จว.นนทบุรี ที่ได้ดำเนินการตรวจข้อเท็จจริงและมีคำสั่งยุติเรื่อง โดย ภ.1 เห็นว่าถูกต้องเหมาะสม แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการทางวินัยนั้นและใช้อำนาจตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 ในการเรียกเรื่องกล่าวหาคืนไปเพื่อดำเนินการ ดังนั้น เพื่อ มิให้ส่งผลกระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของ ตร. จึงกำชับทุกหน่วยในสังกัดตร. พิจารณาดำเนินการในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนของผู้ถูกร้องดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 ดำเนินการให้ถูกต้องและเหมาะสมแก่กรณีความผิดที่เกิดขึ้นด้วย,กำซับผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจลงโทษ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และคณะกรรมการสอบสวน ให้ดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดไว้ อย่างเคร่งครัด หากไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ ให้เสนอขยายเวลาก่อนครบกำหนด พร้อมเหตุผลความจำเป็นด้วยทุกเรื่อง, กำชับหน่วยให้ดำเนินการกรอกข้อมูล ในระบบฐานข้อมูลกำลังพล POLIS ให้เป็นไปตามแนวทางการบันทึกข้อมูล ซึ่ง ตร.ได้มีมีหนังสือที่ 0006.14/1075 ลง 22 มี.ค.67 แจ้งเวียนไปแล้วส่วนหนึ่ง หากมีข้อสงสัยให้ประสานการปฏิบัติกับ วน.

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ดำเนินการทางวินัย