นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่าวันนี้เวลา 11.00 น. สมาคมฯร่วมกับชาวชลบุรี ได้เดินทางไปที่ศาลปกครองระยอง เพื่อยื่นฟ้อง ปตท. และ กกพ. ฐานปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุละเมิดทำให้ที่ดินและทรัพย์สินชาวบ้านเสียหาย ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่ กกพ. ได้ประกาศกำหนดเขตโครงข่ายก๊าซธรรมชาติ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 ตามพรบ.ประกอบกิจการพลังงาน 2550 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2559 เพื่อรองรับการจัดส่งก๊าซฯ จากระยองไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกง โรงไฟฟ้าวังน้อย และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ โดยอ้างว่าเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพของการจัดส่งก๊าซฯ จากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตก และรองรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่ง โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการที่จังหวัดระยอง ไปยังจุดสิ้นสุดที่จังหวัดนนทบุรี แนวท่อก๊าซจะผ่าน 8 จังหวัดนั้น
แนวเขตท่อก๊าซดังกล่าวได้ผ่านที่ดินของชาวบ้าน กระทบต่อบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เทือกสวนไร่นา สวนผลไม้ ที่ดินทำกินของชาวบ้านเป็นจำนวนมาก
โดยที่มีการจ่ายค่าลิดรอนสิทธิ์ในราคาไร่ละไม่ถึง 2 หมื่น ซึ่งต่ำกว่าความเป็นจริงหรือต่ำกว่าราคาตลาดตามที่กฎหมายบัญญัติเป็นอย่างมาก ทำให้ที่ดินราคาตก เพราะไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางพานิชย์หรืออุตสาหกรรมได้ แม้ที่ดินส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งจะมีราคาแพงมากในปัจจุบันก็ตาม
ชาวบ้านจำนวนมากจึงไม่พอใจได้มายื่นฟ้องต่อศาลปกครองระยองเพื่อให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ ปตท. และ กกพ. จ่ายหรือร่วมกันจ่ายค่าชดเชย ค่าทดแทน และค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน ประเภทที่ดิน ที่ทำให้ที่ดินเสื่อมค่าลง ประเภทพืชผลทางการเกษตร และบ่อปลาและสัตว์น้ำ ในราคาไร่ละ 1.5 ล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับแต่วันฟ้องคดีไปจนกว่าจะชำระเสร็จ พร้อมกับขอให้เพิกถอนหรือระงับโครงการท่อก๊าซดังกล่าวไปเสีย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด