หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการพักโทษ ตามโปรแกรมที่จัดวางไว้ก่อนเดินทางเข้ามารับโทษ ส่งผลให้คลื่นลมทางการส่อเค้ากระเพื่อมพอที่เขย่าสถานะของรัฐมนตรีในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ให้สั่นไหวและบางคนอาจกระเด็นตกเก้าอี้
ขณะที่คอการเมืองต่างโฟกัสไปที่นายเศรษฐา ว่าจะวางบทบาทตัวเองเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดเพื่อรักษาเก้าอี้ต่อหรือจะโชว์บทบาทความเป็นผู้นำไร้การครอบงำ แต่น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า เพราะถูกวิจารณ์หนักว่านายเศรษฐาเปรียบเสมือนแมลงวันขยันบินไปทั่วแต่ไร้ผลงาน
ยิ่งมองในส่วนของข้าราชการประจำด้วยแล้ว ดูเหมือนว่านายทักษิณ คือศูนย์กลางอำนาจที่จะบันดาลให้ตัวเองก้าวหน้าได้ จึงยอมที่จะหาช่องว่างทางกฎหมายเลี่ยงบาลีให้ติดคุกทิพย์ตลอด 180 วัน
ในห้วงที่ถนนทุกสายกำลังมุ่งหน้าสู่บ้านจันทร์ส่องหล้ามากกว่าทำเนียบรัฐบาล นิด้าโพลเปิดผลสำรวจของประชาชนเรื่องคดีทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ สำรวจระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม จากประชาชนวัย 18 ปีขึ้นไปทุกภาครวม 1,310 ตัวอย่าง
โดยถามเกี่ยวกับสาเหตุทำให้เกิดการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ พบว่า ร้อยละ 59.39 ระบุว่า อยากรวย อยากมี อยากได้ รองลงมา ร้อยละ 31.53 อยากมีอำนาจ อิทธิพล เพราะคนส่วนใหญ่ของสังคมนับถือคนรวยคนมีอำนาจ ร้อยละ 23.05 ระบุว่ากฎหมายมีช่องโหว่ให้โกง และร้อยละ20.23 บอกว่าค่าครองชีพสูง ร้อยละ 17.25 ระบุว่าการบังคับใช้กฎหมายไม่เด็ดขาดและจริงจัง ร้อยละ 8.93 ได้รับผลประโยชน์มีความคุ้มค่ามากกว่าบทลงโทษทางกฎหมาย และร้อยละ 7.18 บอกว่าคดีทุจริตจำนวนมาก สุดท้ายคนผิดลอยนวล
หัวข้อนิด้าโพลที่ตั้งเป็นคำถามให้ประชาชนตอบ และไม่ว่าโพลสำนักไหนนำไปถามผลจะออกมาในลักษณะเดียวกันอย่างแน่นอน เมื่อร่ำรวยทุกสิ่งทุกอย่างสามารถบันดาลได้ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจเพราะเก้าอี้หรือตำแหน่งเป็นสินค้าที่ผู้มีอำนาจมีไว้จำหน่ายแรกกับผลประโยชน์ เมื่อมีตำแหน่งคนในสังคมจะให้การนับถือ เกรงอก เกรงใจ โดยไม่สนใจว่าเบื้องหลังเป็นอย่างไร โกงเงินภาษีของพวกเรามาเท่าใด หรือก่ออาชญากรรมอะไรมา
ปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นชัดเจนอย่างนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐระดับบิ๊ก สังคมต่างรับทราบกันทั่วไปว่านักการเมืองคนนี้ทำชั่วอะไรมา มีธุรกิจเถื่อนกี่ชนิด หรือบิ๊กราชการคนนี้โกงเงินรัฐ ได้ตำแหน่งมาด้วยการทุ่มเงินนับร้อยนับพันล้าน เมื่อไปงานมงคลมักจะถูกเชิญเป็นแขกวีไอพี ดูแลอย่างดี แถมเชิญให้ขึ้นอวยพรเพื่อเป็นสิริมงคลอีกต่างหาก หรือไปงานบุญทอดกฐิน ผ้าป่า ฝังลูกนิมิต จะได้รับเกียรติให้เป็นประธาน โฆษกในงานจะสรรเสริญเยินยอถึงคุณงามความดี ทั้งที่เบื้องหลังมีแต่บาดแผลแห่งความชั่วร้าย
บรรดางานต่างๆเหล่านี้ ทางเจ้าภาพจะชื่นมื่นเป็นพิเศษ เพราะเพื่อนบ้านจะสรรเสริญว่าเป็นผู้กว้างขวางได้นักการเมืองระดับรัฐมนตรี สส. สว.และบิ๊กข้าราชการ มาร่วมงาน
ยิ่งในช่วงที่นายทักษิณ บินกลับมารับโทษ ข้าราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยต่างเอื้อเฟื้ออำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กกระทรวงยุติธรรม อัยการ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ หรือแม้แต่แพทย์โรงพยาบาลตำรวจยังศิโรราบ ยอมให้สังคมมองเครดิตโรงพยาบาลตำรวจติดลบ ทั้งที่เป็นโรงพยาบาลระดับนำของประเทศ นี่คือการรับใช้เพียงเพื่อให้มีความก้าวหน้าที่ในหน้าที่การงานแล้วผลประโยชน์อื่นจะตามมาอีกมากมาย
ที่ยกมาเป็นแค่บางปรากฏการณ์เท่านั้น ยังไม่นับรวมถึงพวกมีสีไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยพวกนี้ใช้ช่องว่างของกฎหมาย รวมถึงอำนาจที่มีอยู่ในมือแสวงหาผลประโยชน์กันอย่างปากมัน
หลักฐานที่ชัดเจนและจับต้องได้อย่าง ทหาร ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐคนไหน ที่สวมบทนอกเหนือหน้าที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อป.ป.ช. จะพบว่ารวยหลายร้อยล้านหลายพันล้าน หากคำนวณรายได้จากเงินเดือนหรือเงินตอบแทนอื่นๆที่พึงได้ทำทั้งชีวิตหรือตายไป 3 ชาติ ยังไม่สามารถหาได้ บุคคลเหล่านี้สังคมส่วนใหญ่ต่างให้ความเคารพนับถือ
ดังนั้นผลโพลนิด้าที่เปิดเผยออกมาเป็นสิ่งที่ดี เพื่อยืนยันว่าการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐรวมถึงนักการเมือง ยังคงดำรงอยู่เหมือนเดิม ถึงขั้นพอที่จะบอกว่านี่คือวัฒนธรรมส่วนหนึ่งของไทย ก็มิได้เกินเลยแต่อย่างใด
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไปสู่สื่อทุกแขนงในประเทศ รวมถึงสื่อต่างประเทศ คนรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวมารับช่วงต่อในการขับเคลื่อนประเทศต่างรับรู้เป็นอย่างดี และสะท้อนผ่านการกาพรรคก้าวไกล จนชนะอันดับ 1
ดังนั้นนับแต่นี้ไปถ้าข้าราชการและนักการเมืองยังประพฤติแบบเลวๆเหมือนเดิม เลือกตั้งสมัยหน้าเชื่อว่า”ก้าวไกล”จะทะยานไกลกว่าเดิมแน่นอน แม้กลุ่มอำนาจเก่าจ้องจะเจาะยางอยู่ก็ไร้ผล !!!
