จากกรณี #ฝรั่งเตะหมอ ที่ภูเก็ต กับวันกะเทยผ่านศึก ที่ #สุขุมวิท11 แม้จะเป็นคนละเรื่อง แต่ทำให้เห็นอารมณ์ร่วมของคนในชาติ ว่าสัปดาห์เดียวประเทศนี้มีดราม่า2เรื่องใหญ่ ๆ และ กลายเป็นเรื่อง “ระหว่างประเทศ” แม้จะเป็นกรณีเล็ก ๆ (หมายถึงไม่ใช่ปัญหาระดับรัฐ) แต่เรื่องเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เกิด “คำถามใหญ่ ๆ” จนสามารถมองหาจุดเชื่อมโยงระหว่าง2เรื่องนี้ได้ รวมกันนั่นคือ
ทำไมถึงปล่อยให้ต่างชาติเข้ามามีอิทธิพลต่อชาวบ้าน นักท่องเที่ยวและกระทบไปยังปัญหาอื่น ๆ และทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ยังมีกรณีแบบนี้ มีกาาซุกซ่อนปัญหาที่หมักหมมไว้ใต้พรมที่ภพภายนอก เราเปิดรับนักท่องเที่ยว อยากให้ไทยเป็นฮับใหญ่ๆ ของทั้งการบิน ท่องเที่ยว สุขภาพ ฯลฯ ตลอดจน SoftPower ของหากินสุดคลาสสิกของรัฐบาลหรือไม่
เหนือสิ่งอื่นใด สติแรก! ที่ควรมีคือ “กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์” หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนต้องร่วมกัน “ผ่าตัดแบบฉุกเฉิน” มันเกินกว่าที่จะเรียกว่า “ถอดบทเรียน” ปัญหาคาราคาซังนี้ ไม่ใช่ปล่อยให้มีคนมีอิทธิพลหรือการทำลายชาวบ้านและคนไทยในทางตรงและทางอ้อม
สติที่2ความรุนแรงทางกายภาพไม่ใช่ทางออก แต่ควรย้อนกลับไปสู่ความรุนแรงเอาจริงเอาจังทางการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่? อย่าปล่อยให้ใครมาทำอะไรก็ได้ ในบ้านเมืองนี้ ภายใต้ผืนแผ่นดินเดียวกันกฎหมายเดียวกันควรทำให้ศักดิ์สิทธิ์น่าเกรงขามอย่างจริงจังเท่าเทียมกันทุกระดับ ย้ำ ทุกระดับ!!
มิเช่นนั้นการจะเป็น Hub ตามภาพฝันของท่านนายกฯก็คงเป็นเพียงแค่ภาพฝันได้แค่นั้นต่อไป
จากความรุนแรงจากหาดยามู ภูเก็ต กับสุขุมวิท11 มีตัวละครหลักเป็นชาวต่างประเทศ คือยุโรปกับอาเซียน แต่มีลักษณะร่วมชวนสงสัยคือ “อภิสิทธิ์ชน” ที่ฝรั่งได้มาสัมพันธ์กับโครงสร้างและเครือข่ายของเจ้าหน้าที่ ใช่หรือไม่ ?
เหตุการณ์ที่ภูเก็ตได้สะเทือนด้วยการชูป้ายแสดงความรู้สึก สะท้อนสำนึกการขับไล่คนใช้ความรุนแรง จากคนในพื้นที่ แต่จะมีสักกี่คนที่จะกลับไปตั้งคำถามถึง “รากของปัญหา” เพื่อไม่ให้น้ำผึ้งหยดเดียวแบบนี้มีอีกหลายหยดในวันข้างหน้า
และวันนี้เรื่องที่ประชาชนสงสัยคือมีค้าประเวณีในพื้นที่ย่านสุขุมวิทจริงหรือไม่ และจะทำอย่งไรในการหยิบยกเรื่องเหล่านี้มาคุยกนอย่างไม่ดัดจริต ถ้าจะมีก็ถกกันให้ชัดว่าขอบเขตอะไรแค่ไหน ถ้าไม่ รู้สึกขัดต่ออะไรทั้งหลาย แล้วทำไมถึงไม่จัดการมันให้จริงจังสักที เอาให้สมที่เป็นเมืองพุทธ(แต่ปาก)ตามที่ชอบประกาศเอาไว้
เพราะถ้าจัดการเฉพาะหน้าแค่ขับไล่ จบกรณีนี้ไป ในวันข้างหน้ามั่นใจ1000000% ว่ามีอะไรทำนองนี้กลับมาอีก เพียงแค่เปลี่ยนตัวละครแค่นั้น แล้วก็รอวันปะทุใหม่
ใครจะไปรู้าหากเกิดอะไรทำนองนี้อีกในวันข้างหน้า ปัญหาอาจจะซับซ้อนยากเกินกว่าจะแก้ ถึงวันนั้นอาจจะไม่ใช่แค่การผ่าตัดใหญ่ธรรมดา แต่อาจจะไปถึงขั้นว่ารักษาไม่ได้ ตายสถานเดียว!!??หรือไม่
โจทย์นี้จึงเป็นอะไรที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทุกระดับต้องลงมาจับ มาเก็บข้อมูลและใส่ใจในการผ่าตัดฉุกเฉินนี้เสียที ก่อนที่เก้าอี้ และผลประโยชน์เครือข่ายที่(ใครบางคน)มี มันจะระเบิดออกมา ไม่ทันได้รักษา แต่ทว่าตายกันยกรัง!!!
