ตกลงประเทศนี้มีนายกฯกี่คน ?

1248

คำถามที่ฮอตที่สุดในสัปดาห์นี้ หนีไม่พ้น “สรุปแล้วประเทศนี้มีนายกฯกี่คน ?” เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่า “อดีตนายกฯทักษิณ” คือผู้นำจิตวิญญาณของไทยรักไทย พลังประชาชน มาจนเพื่อไทย “นายกฯเศรษฐา” กลายเป็น “คนไทยคนแรก” ที่ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่ได้เข้าพบ “ทักษิณ ชินวัตร” อย่างเป็นทางการ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไปแบบให้สื่อทราบ จึงกล่าวได้ว่าเป็น “คนไทยคนแรกสุด”(นอกครอบครัว) ที่ได้พบ หลังจาก “สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน”ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา เป็นแขกวีไอพีคนแรกสุด เจ้าตัวเคยเปรียบไว้ว่าเป็นเพื่อนแท้ของอดีตนายกฯ บินข้ามพรมแดนมาทันที หลังจากที่ทราบข่าวว่าได้รับการพ้นโทษมาพำนักที่บ้านจันทร์ส่องหล้า และเจ้าตัวรีบออกมาโพสต์ว่าไม่ได้คุยเรื่องการเมืองมีแต่เรื่องสุขภาพ และได้เชิญบุตรสาวอดีตนายกฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปเยือนกัมพูชาด้วย

ถามว่าทำไมคำถามนี้จึงดังขึ้นมา คำตอบก็คงเป็นเพราะว่า “ความชัดเจน”ในอดีต และความคลุมเครือในปัจจุบัน ที่คู่ขนานกันไป ความชัดเจนในอดีตคืออะไร หลายคนคงพอจำได้ กรณีอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช ผู้นำทัพพรรคพลังประชาชน ต้องผจญกับคำถามนี้ตลอดการดำรงตำแหน่งนายกว่า ตกลงแล้ว คุณสมัครเป็น “นอมินี” หรือไม่ ? จนกระทั่งตัวเอง “ไม่ถูกเลือก” หรืออีกนัยหนึ่งคือมีความพยายามไม่ให้เขากลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ หลังจากพ้นตำแหน่งเพราะทำกับข้าวออกทีวี แต่ยังมีโอกาสให้เลือกใหม่ได้อีกหน แต่บทวิเคราะห์จากสื่อหลายสำนักลงมติเอกฉันท์พร้อมใจกันว่า นายกฯคนนี้สั่งไม่ได้ทุกเรื่อง ? จำต้องมีการเปลี่ยนตัวเอา “น้องเขย” ขึ้นมาแทน ก่อนที่เจ้าตัวจะมีปัญหาสุขภาพและได้จากโลกใบนี้ไปในปีถัดมา มาจนถึงช่วงนายกฯหญิงคนแรก สโลแกนทักษิณ คิดเพื่อไทยทำ และภายใน49วัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นั่งเก้าอี้นายกฯสำเร็จ ความศรัทธาในแบรนด์อดีตทักษิณในอดีตจึงมีความสำคัญและเป็นผลลัพธ์ให้ขายได้ขายออยู่และขายต่อ ส่งผลมาถึงการเลือกตั้ง 2566 ก่อนวันหย่อนบัตร อดีตนายกฯ ปรากฎกายในฐานะพี่โทนี่ ผู้รู้ทุกเรื่องแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง โชว์วิชั่นสัปดาห์เว้นสัปดาห์ เดินคู่ขนานกับพรรคการเมืองที่ลูกสาวมารับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แต่แล้วความสดใสใหม่และความชัดเจน “มีลุงไม่มีเรา” ของก้าวไกลกับพลิกมาชนะอันดับ1 เป็นการเมืองแรกในรอบ20กว่าปีที่ แบรนด์ไทยรักไทย ความนิยมต่ำลง เป็นสิ่งที่ต้องกลับมาคิดว่า “แบรนด์ทักษิณ” ยังขายได้หรือไม่และควรใช้โฆษณามากขนาดไหน

พอมาถึงการจัดตั้งรัฐบาลทุกความคลุมเครือกลับเด่นชัด วันที่ “เศรษฐา”เป็นนายกฯ กลับเป็นวันเดียวกันกับวันที่อดีตนายกฯได้กลับบ้าน หลังจากก่อนหน้านั้นมีการนำเสนอข่าวการดีลไว้แล้ว และดูโฉมหน้ารัฐบาลก็เห็นตัวละคร เห็นจิ๊กซอว์จนสิ้นสงสัยและ แม้ตอนนี้เราจะมีนายกฯคนใหม่แล้ว แต่ทันทีที่มีข่าวการกลับไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ทุกคนต่างกังวลและตั้งข้อสังเกตว่าที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์บัญชาการอีกแห่งคู่ขนานไทยคู่ฟ้าหรือไม่

ผู้สื่อข่าวการเมืองไทยก็ถามหยิกแกมหยอกกับบรรดารัฐมนตรีและแกนนำพรรคร่วมว่าจะไปเยี่ยมหรือไม่หลายเสียงก็ตอบอย่างมั่นใจว่าไปแน่ ในฐานะผู้ใหญ่ที่เคารพรัก กระทั่งกระแสสังคมก็ตั้งคำถามว่า ตกลงแล้วมีนายกฯกี่คนแน่นอนที่สุดตามกฎหมายก็มีอยู่ท่านเดียว แต่คำแนะนำ คำชี้แนะ และความเห็นอื่นๆ ของอดีตนายกฯผู้มากบารมีที่ใส่เฝือกอยู่นี้จะมี “น้ำเสียง”ที่ดัง และคนจะฟังมากกว่า นายกฯในตำแหน่งหรือไม่ หลายคนอดคิดไม่ได้ นี่ยังไม่นับการออกมาให้สัมภาษณ์ของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร บุตรสาวที่เป็น DNA แท้ๆของออดีตนายกฯ คนจะยิ่งคิดไปกันใหญ่ว่า สรุปแล้วมี 1 , 2 หรือ 3 คน

วันนี้ต้องยอมรับว่า นายกฯที่ชื่อเศรษฐา ลุยออกงานเยอะมาก จนป่วย แต่คนก็ยังตั้งคำถามใส่ ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าจากการที่ตัดสินใจเป็นคนไทยคนแรกที่ไปหาแบบทางการ ในแง่หนึ่งคือดีที่ทำอะไรอย่างเปิดเผย แต่อีกแง่หนึ่งก็อย่าละเลยสิ่งที่สังคมยิ่งงง และสงสัยอยู่ การแสดงออกในจังหวะที่ผิดก็ย่อมอาจจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่ได้ดั่งใจ ถึงเวลานั้นก็อาจจะโทษใครไม่ได้ หลายปัญหาประชาชนรอแก้ไข หลายนโยบายที่ชาวบ้านรอเห็นผลไวๆ แอ๊คชั่นอาจจะยังไม่มากหรือไม่ดังพอเท่ากับการมีท่าทีทางการเมืองแบบนี้ก็เป็นได้ การตัดสินใจเดินที่ผิดอาจนำไปสู่ขิตก็ได้….