“ภาคภูมิ” สส.ตาก พรรคพลังประชารัฐ เสนอ สภาฯตั้ง กมธ.ลดขั้นตอน การขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าแก้ปัญหาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หวังเร่งจัดบริการสาธารณะ ช่วยแก้ปัญหาให้ ปชช.ได้เร็วขึ้น พร้อมวอน ครม.พิจารณาระเบียบ ข้อบังคับใหม่
นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวเสนอญัตติเพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแนวทางการลดขั้นตอน ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าเพื่อทำประโยชน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า การเสนอญัตติเพื่อต้องการลดขั้นตอนในการขออนุญาต ใช้พื้นที่ป่า เพื่อทำประโยชน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เรื่อง การเข้าทำประโยชนในพื้นที่ป่าไม้ และ ขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2523 ในกรณีที่ปรากฏว่ายังมีส่วนราชการได้เข้าทำประโยชน์ ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ให้ยืนยันคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ คณะรัฐมนตรีได้มีมติ
นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ให้ขยายระยะเวลา การขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้อีก 120 วัน ปรากฏว่ามีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนหนึ่ง ได้ยื่นขออนุญาตฯ ตามห้วงระยะเวลา และมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกเป็นจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ยื่น คำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้และขอผ่อนผันได้ทันกำหนดระยะเวลาตามที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติไว้
นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า พื้นที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าทำประโยชน์ตามความเป็นจริง ไม่มีสภาพเป็นป่าไม้ไม่มี การแผ้วถาง ตัดต้นไม้ หรือทำให้ทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ในป่าได้รับความเสียหาย เสื่อมสภาพหรือหมดสิ้นไป แต่เป็นเพียงการตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้บริการสาธารณะในเขตหมู่บ้าน เขตพื้นที่รับผิดชอบ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งโดยสภาพเป็นเขตชุมชนที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันมายาวนาน เช่น ก่อสร้างถนน ก่อสร้างระบบประปาในพื้นที่สาธารณประโยชน สิ่งที่เป็นสาธารณูปโภคอื่น ที่มีอยู่เดิม การขุดลอกแหล่งน้ำตามธรรมชาติ
“ปัญหาอุปสรรคดังกล่าว เป็นเหตุให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถจัดบริการสาธารณะ เนื่องจากกระบวนการการดำเนินการขออนุญาตและการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ ประโยชนในพื้นที่ป่า มีความยุ่งยากซับซ้อน และใช้ระยะเวลานาน จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอนุญาตของประชาชนตามคำร้องขอได้ จึงทำให้ประชาชนไม่ได้รับการบริการ การแก้ไขปัญหาอย่างทันต่อเวลา ทำให้เสียโอกาส เกิดความไม่พึงพอใจในการให้บริการของภาครัฐ เกิดความไม่แน่นอนและอาจทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้เข้าใช้ประโยชน์ในการจัดบริการสาธารณะ ต้องถูกดำเนินคดี ตามกฎหมาย“นายภาคภูมิ กล่าว
นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด คือ การไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างสมดุล ขาดกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์และขาดการยอมรับของประชาชน ในพื้นที่ส่งผลนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐได้
นายภาคภูมิ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมากฎหมายเช่นนี้บีบบังคับให้องค์การส่วนท้องถิ่นไม่กล้าขยับ กลัวเป็นคดีความ ตนอยากให้นำเรื่องนี้เข้า ครม.เพื่อพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง และตนต้องการให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะไม่อยากจะให้ไปตั้งเป็นคณะทำงานในกรรมาธิการชุดอื่นๆเพราะมันจะไม่มีอำนาจ อยากจะเร่งรัดการขออนุญาตใช้พื้นที่เขตป่าให้เร็วที่สุด
