ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามจับกุมผู้ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ที่เก็บเงินสร้างบ้านมาทั้งชีวิตแล้วต้องมาเจอกับมิจฉาชีพในคราบนักบุญ เคยมีการร้องเรียนออกข่าวทางทีวีกลุ่มรวมผู้เสียหายประมาณ 50 คน ถูกโกงเรื่องการสร้างบ้าน รับเหมาแต่สร้างไม่เสร็จ หนีไป ซึ่งคนดังกล่าวใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ทิพย์วารี หลานปู่ใหญ่ แห่งภูนกหงษ์หิน”
ลักษณะการก่อเหตุคือ จะลงแบบบ้านสวยๆในเฟซบุ๊กซึ่งตั้งราคาถูกกว่าที่อื่น พอมีคนสนใจก็จะติดต่อไปและตกลงเจรจาเรื่องรับเหมาก่อสร้าง มีให้รับบัตรคิวจองทำงานเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่ามีลูกค้าที่จ้างให้ทำงานจำนวนเยอะ จากนั้นเมื่อเหยื่อเชื่อใจจะขอเบิกเงินผู้เสียหายล่วงหน้า แต่ส่วนมากจะสร้างไม่เสร็จและทิ้งงานหนีไป บางหลังก็มีแค่เสากับผนัง มีผู้เสียหายเสียเงินหลักหมื่นถึงหลักหลายแสนบาท ผู้เสียหายบางรายใช้เงินก้อนสุดท้ายเพื่อจะสร้างบ้านไว้อยู่ในบั้นปลายชีวิต แต่ได้แค่เสา พื้น ผนัง สุดท้ายต้องไปทำงานเป็น รปภ. ได้วันละ 500 บาท เพื่อหาเงินมาสร้างบ้านต่อให้เสร็จ
ผู้ต้องหารายนี้มีการขู่ผู้เสียหายว่าใครโพสต์ประจานจะดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาททั้งหมด ต้องมาขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น ไม่ใช่มาแต่กระเช้า จากนั้นชุดสืบนครบาลได้เริ่มทำการสืบสวนแกะรอยเป็นเวลากว่า 1 ปี สาเหตุเนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และได้ย้ายที่อยู่ไปเรื่อย เช่ารีสอร์ทรายวันในการหลบหนีเจ้าหน้าที่
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567เวลาประมาณ 20.20 น. ผลการปฏิบัติโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่สืบนครบาลได้จับกุมตัว
น.ส.นิตยา หรือทิพย์วารี (ชื่อในวงการ) อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 259/2566 ลงวันที่ 28 ก.ค. 2566 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน
“ฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” จับกุมได้ที่ร้านกาแฟ ต.กุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี
ก่อนการจับผู้ต้องรายนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลได้สืบทราบจากสายข่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีขึ้นภูเขาไปปฏิบัติธรรมบนสำนักสงฆ์ที่ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เพื่อเอารูป มาสร้างภาพว่าตนเป็นคนจิตใจบุญ เป็นคนดี ชอบโพสต์คำคมในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับธรรมะ เช่น “กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ” เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจึงได้เฝ้าติดตามไปที่ดังกล่าวเพื่อจับกุมตั้งแต่เช้า จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.20 น. ได้พบเห็นผู้ต้องหากำลังเดินเข้าร้านกาแฟจึงได้เข้าไปควบคุมตัวไว้ได้
จากการตรวจสอบพบมี2หมายจับ
(1) หมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 259/2566 ลง 24 ก.ค.2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
(2)หมายจับศาลจังหวัดมุกดาหารที่ 411/2566 ลงวันที่19 ก.ย.2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
จากการซักถาม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและให้การว่า บางที่ช่างที่จ้างอีกทีทิ้งงาน บางหลังก็ขอเปลี่ยนแบบหรือเพิ่มสเปคแต่ไม่เพิ่มเงิน และยังอ้างว่าเจ้าของบ้านหาเรื่องทะเลาะ ไล่ช่างออก ไปแจ้งความฟ้องร้องเอาเงิน แต่ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่ปักใจเชื่อแน่นอน
นำตัวผู้ต้องหาส่ง ศาลจังหวัดสมุทรปราการ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆโดยเฉพาะผู้รับเหมาสร้างบ้าน ควรพิจารณาจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีชื่อเสียงดี มีผลงานการก่อสร้างที่คุณภาพดีเป็นหลัก ตรวจสอบดูผลงานที่ผ่านมาว่าผู้รับเหมามีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมายหรือไม่ หรือมีประวัติการทิ้งงานก่อสร้างด้วยหรือไม่ มีการทำเอกสารสัญญาการก่อสร้างที่เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อลดปัญหาการที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบนครบาลIDMB” ได้ตลอด 24 ชม. ผู้เสียหายให้รีบติดต่อร้นเวรของท่านเพื่อทำเรื่องอายัดตัวผู้ต้องหาที่ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
