เกิดเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ติดตามผู้เสียหายผู้หญิงบริเวณถนนพหลโยธิน เมื่อคนร้ายขี่ตีคู่เหยื่อจะกระชากเอาโทรศัพท์ แล้วขี่หลบหนีไป คนร้ายก่อเหตุอย่างอุจอาจแล้ว อีกทั้งจะให้เกิดอุบัติบนถนน
น.1 จึงสั่งให้ สืบนครบาลเร่งสืบสวนติดตามคนร้ายดังกล่าวโดยเร็ว โดยจากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายอั๊ม จะมีการเตรียมพร้อมโดยผูกเชือกหลังห้องเตรียมโรยตัวหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบไอ้แมงมุม แต่สุดท้ายไม่รอดสืบนครบาล
วันนี้ 21 ม.ค. 66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่างผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ชัยยุทธ ศักดิ์เพชร รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว
นายเอกพล อายุ 29 ปี หรือ “อั้ม“ อยู่ภูมิลำเนา ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.4828/2566 ลงวันที่ 27 ธ.ค. 66
ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
พบประวัติเคยก่อคดีมาแล้วกว่า 2 คดี
1.วันที่ 31 ส.ค. 56 ก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ พื้นที่ สน.นางเลิ้ง
2.วันที่ 10 ก.ย. 62 ถูกจับกุมข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน) พื้นที่ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
จับกุมตัวได้ที่ การเคหะชุมชนพรพระร่วงประสิทธิ์ สุขาภิบาล 5 ซอย 32 แยก 10 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพ
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 18.30 น. ได้เกิดเหตุ หญิงผู้เสียหายได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กับเพื่อนสาวมาตามถนนพหลโยธิน ระหว่างขับขี่บนถนนได้มีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มาตีคู่ ก่อนจะเอื้อมมือมาจ้วงฉกเอาโทรศัพท์ไปจากมือของหญิงผู้เสียหายที่ซ้อนท้าย ซึ่งหลังจากเหตุเธอได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าคนร้ายคือ นายเอกพลฯ หรืออั้ม ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับในเวลาต่อมา หลังได้มีการออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบทราบว่า นายเอกพลฯ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่ การเคหะชุมชนพรพระร่วงประสิทธิ์ ซ.สุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังไปติดตามจับกุมตัว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเดินทางมาถึงห้องพัก ปรากฏว่าไม่พบ นายเอกพลฯ โดยแฟนสาวได้บอกเจ้าหน้าที่ว่า นายเอกพลฯ ได้ปีนระเบียงหลังห้องลงไปด้านล่างแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณระเบียงหลังห้องก็พบ นำเชือกมาผูกไว้ริมระเบียงและห้อยลงไปด้านล่างหวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยสัญชาตญาณนักสืบสะกิดใจว่าห้องที่ติดกันนั้นเป็นห้องว่าง ชุดสืบสวนไม่รอช้าปีนระเบียงไปยังห้องข้างๆก่อนจะพังประตูห้องน้ำเข้าไปและพบว่า นายเอกพลฯ แอบคุดคู้อยู่ด้านหลังประตู จึงทำการจับกุมตัวได้ในที่สุด
ในชั้นจับกุม นายเอกพลฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบชั้น ป.6 จากโรงเรียนอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ยอมรับว่าตนเองติดยาเสพติด และยังมีลูกเล็กอีก 2 คน ที่ลงมือก่อเหตุเพราะตนเองตกงานไม่มีงานทำ ต้องหาเงินมาเลี้ยงลูก โดยในวันเกิดเหตุได้เห็นหญิงผู้เสียหายจอดติดไฟแดงอยู่โดยมีโทรศัพท์ยี่ห้อ XR จึงได้ขับสะกดรอยติดตามไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็เห็นหญิงผู้เสียหายเอาโทรศัพท์ออกมาเล่นจึงขับประกบแล้วเอามือหยิบแย่งมาจากมือ ก่อนจะหลบหนีไปละแวกสามเสน และยอมรับว่าที่ปีนระเบียงหนีตำรวจเพราะตกใจ กลัวถูกจับกุม เชือกนั้นได้เตรียมผูกไว้พร้อมหลบหนีมาอยู่ตลอดเวลา
หลังจับกุมตัวได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย