อะไร ๆ ก็ SoftPower ตกลงจะมีพาวเวอร์กี่โมง?

819

รัฐบาลพรรคเพื่อไทยในเวอร์ชั่นปี2566 นอกจากนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล วอลเลต(ที่ต้องจับตาถึงนาทีสุดท้าย ว่าจะดำเนินนโยบายต่างจากปกปานใด)ยังมีอีกหนึ่งคีย์เวิร์ดที่ถูกใช้ในการหาเสียงและเป็นหนึ่งในสิ่งที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” DNAแท้ๆของ อดีตนายกฯทักษิณ ได้ประกาศและลงมาคุมยุทธศาสตร์นี้ด้วยตัวเองนั่นคือ On Familly One Soft Power OFOS หรือหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ ที่หลายคนยังนึกไม่ออกเช่นกันว่าจะ”พลิกโฉม” จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหนและอย่างไร

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเองเคยบอกว่า “หมูกระทะ”เป็นซอฟต์พาวเวอร์แต่ก็มีคนแย้งว่า หมูกะทะ คือสินค้า การที่จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์หรืออำนาจเบา- อำนาจละมุน ที่จะโน้มน้าว ชักนำคนได้นั้น มันต้อง ประกอบด้วย“บุคคล” หรือ เหตุการณ์ที่นำไปสู่การทำให้ “เกิดพลัง” อาทิ”ลิซ่า” ไปยืนกินลูกชิ้น ลิซ่า ไปเที่ยววัด แล้วปรากฎว่ามีร้านลูกชิ้นงัดกลเม็ดเด็ด ๆ หรืออิงกับกระแสจนทำให้อยากพาตัวเองไปทานอยากไปอยู่ตรงจุดนั้น นั่น แหละคือ “พลัง”ที่บังเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่สินค้ามีพลังในตัวเองและนี่คือสิ่งจะทำให้ร้านเล็กๆ หรืออุตสาหกรรมในครอบครัวไปได้

อีกประเด็นที่เป็นปัญหาถกเถียงกันคือสัดส่วนการใช้งบประมาณหลัก5พันกว่าล้านในด้านต่างๆเพื่อการกระตุ้นโครงการดันกลายเป็นข้อถกเถียงถึงวงการอ่านหรือวงการหนังสือที่ใช้เงินน้อยมาก ส่วนใหญ่หมดไปกับการจัดอีเว้นต์ สะท้อนจนย้อนให้คิดไปถึง “ปัญหาการศึกษาไทย”ในตอนนี้กำลังวิกฤติอย่างหนัก จากคะแนนPisa ที่ตกต่ำลง เด็กคิดวิเคราะห์ไม่ได้ คุณภาพการศึกษาและการเรียนการสอนมีปัญหาแน่ การกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ เป็นคนอ่าน เป็นคนรอบรู้กลับกลายเป็นวงการที่ได้เงินน้อยมาก แต่ไปเยอะในแง่การจัดอีเว้นต์ ห่วงภาพลักษณ์มากกว่าสนใจไส้ในข้องปัญหาใต้ภูเขาน้ำแข็งที่กดทับมานาน

กับอีกหนึ่งดราม่าสดๆ ร้อนๆ คือกิจกรรมที่ ททท. จะดัน จัดการแข่งขันใน 5 หัวข้อที่สุดของโลก GUINNESS WORLD RECORDS ได้แก่ ใส่นวมต่อยลูกโป่งแตกมากที่สุดใน 1 นาที ,ใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที ,กินสตรีทฟู้ด (ปาท่องโก๋) มากที่สุดใน 1 นาที ,ใส่หน้ากาก (หน้ากากผีตาโขน) ได้มากที่สุดใน 1 นาที และกินป๊อบคอร์นได้เยอะที่สุดใน 1 นาที

ซึ่งภายหลังมีการนำเสนอข่าวการจัดกิจกรรมนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ประชาชนในโซเชียลมีเดียล้วนโบกรถทัวร์มาจอด เพื่อรุมตั้งคำถามถึงกิจกรรมที่คิดมาว่าแข่งกินปาท่องโก๋ในเวลา 1 นาทีมันจะเป็นsoftpower ตรงไหน ? คิดอะไรได้แค่นี้ มันน่าสนใจจริงหรือไม่? จะได้อะไรจากการที่ใส่กางเกงช้าง คิดแผนกันได้แค่นี้จริงๆหรอ จนลามนึกไปถึงตอนยุคที่ พล.อ.ประวิตรเป็นประธานการจัดข้าวเหนียวมะม่วงเรียก ความเชื่อมั่นแบบเลือกเฉพาะเจาะจงนักท่องเที่ยวจีน โดยกระหน่ำประชาสัมพันธ์ว่าประเทศไทยทุบสถิติใหม่ เลี้ยงข้าวเหนียวมะม่วงใหญ่ที่สุดในโลกหนัก 4.5 ตัน “บิ๊กป้อม”  เชิญนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นสักขีพยาน  ซึ่งในขณะนั้นประเทศเรามีทัวร์ศูนย์เหรียญระบาดหนักมาก นั่นหมายความว่าประเทศไทยแทบไม่ได้เม็ดเงินท่องเที่ยวแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาทางทัวร์ศูนย์เหรียญเลยด้วยซ้ำ

แต่ยังไม่พีคเท่าอีกประเด็นปัญหาคือการที่นักท่องเที่ยวจีนไม่ได้มาตามนัด เศรษฐกิจเลยยังไม่ฟื้นเท่าที่คาด ย้อนไปไม่กี่สัปดาห์ช่วงก่อนปีใหม่เราจะเห็นได้ว่ามีข่าวการคืนสล็อตไฟล์ทบินจากจีนจำนวนมาก จนทอท.-กพท.แจง สายการบินจีนคืน Slot ช่วง 2 เดือนรวมกว่า 8,000 เที่ยวบิน เป็นการคืนสิทธิ์ที่ไม่ได้ใช้ตามปกติ!! ประชาชนต่างสงสัยว่าปกติตรงไหนในเรื่องนี้ ?

ความพีคยังไม่สิ้นสุดยังมีอีกสิ่งที่ปรากฎเป็นปัญหาในภาพใหญ่กว่านั้นแทน ? นั่นคือคนทั่วไปต่างเห็นว่าย่านห้วยขวางในยุคปัจจุบันดูน่ากลัว เป็นมณฑลไท่กั๋ว อุดมไปด้วยแดนหมาล่า ไปแล้ว นี่ยิ่งกว่าซอฟต์พาวเวอร์เป็นซุปเปอร์พาวเวอร์ที่รัฐไม่เคยจัดการ คนไทยจำนวนมากยังตกงาน ไม่มีอาชีพ ไม่มีที่ทำกิน ไม่มีพาวเวอร์ แต่คนจีน(ซึ่งไม่รู้เขามาแบบถูกกฎหมายกี่คน)ต่างขยายอิทธิพลทำกินในประเทศนี้ ดีไม่ดี วันหนึ่งหมูกระทะอาจจะไม่มีพลังเท่าหม่าล่าจากทุนจีนเหล่านี้ แล้วถึงวันนั้นคนไทยอาจจะไม่ได้อะไรเลยจากการเกาไม่ถูกที่คัน ไม่มีการจัดการกับปัญหา และหากรัฐบาลยังเพิกเฉย เฉยชากับเรื่องเหล่านี้

สรุปแล้วเศรษฐกิจจะดี คนไทยจะมีกินมีใช้ อยู่อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรีได้กี่โมง? ตามที่ คุณแพทองธารกล่าวไว้ได้หรือเปล่า ผู้เขียนชักไม่มั่นใจ ที่แน่ๆ มันไม่ได้เกิดในเร็วๆนี้แน่ ถ้าปัญหาที่มียังไม่ได้รับการแก้ไข!