“มหาดไทย” อ้างใช้โป๊ะข้ามคลองไปเรียน วิถีปกติเด็กมอร์แกน!!

732

จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพและข้อมูลเกี่ยวกับความเดือดร้อนของนักเรียนชาวมอร์แกน ในการเดินทางไปโรงเรียนบ้านเกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง ที่ต้องลุยน้ำข้ามคลองซึ่งเสี่ยงอันตราย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ไม่นิ่งนอนใจได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที ทั้งนี้ ได้รับการชี้แจงทางโรงเรียนบ้านเกาะพยามว่าปัจจุบันการเดินทางของนักเรียน จะใช้โป๊ะชักรอกข้ามคลองในกรณีน้ำขึ้น ส่วนเมื่อน้ำลงนักเรียนสามารถเดินข้ามไป-กลับระหว่างโรงเรียนกับที่พักได้ และการเดินทางด้วยวิธีนี้เป็นวิถีปกติของนักเรียนชาวมอร์แกน ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดรถรับส่งนักเรียน(รถอีแต๋น) เป็นระยะทาง 2.5 กิโลเมตร สำหรับนักเรียนชาวมอร์แกนเป็นประจำทุกปีการศึกษา ซึ่งได้รับงบประมาณจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง และทางสำนักงานเขตพื้นที่ฯ ก็มีการกำกับดูแลการดำเนินงานของโรงเรียน เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางไปเรียนของนักเรียนทุกคนด้วย

ส่วนการดำเนินการช่วยเหลือเกี่ยวกับการเดินทางของนักเรียนในระยะสั้น ปัจจุบันโรงเรียนอยู่ระหว่างการขออนุญาตสร้างทุ่นลอยน้ำข้ามคลองชั่วคราวกับองค์การบริหารส่วนตำบล เกาะพยาม และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนอง และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แต่ รมว.มหาดไทย เห็นว่าการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยในชีวิตของเยาวชนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเป็นการถาวร จึงจะใช้โอกาสที่มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีออย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค. 67 นี้ ไปรับทราบเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ พร้อมนำเรื่องที่เป็นข้อติดขัดเข้าหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในที่ประชุม ครม. เพื่อให้การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเกิดขึ้นเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้รายงานให้ รมว.มหาดไทยทราบเป็นข้อมูลในเบื้องต้นว่าโครงการก่อสร้างสะพานได้เริ่มขึ้นด้วยงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณปี 2557 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวมอร์แกนที่อาศัยอยู่บริเวณอ่าวเขาควายที่ไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนและรับบริการสาธารณสุขได้ในช่วงมรสุม โดยหน่วยงานดำเนินการเริ่มแรกนั้นเป็นของอำเภอเมืองระนอง แต่ต่อมาได้เปลี่ยนไปอยู่ในการดูแลของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนองเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในงานโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า จากนั้นเอกชนผู้รับจ้างก่อสร้างได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้วแต่ต้องหยุดก่อสร้างไป เนื่องจากเกิดกรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่46 แจ้งความดำเนินคดีบุกรุกป่า ด้วยงานก่อสร้างบางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนจังหวัดระนอง

โดยที่ผ่านจังหวัดระนองได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อให้การดำเนินการถูกต้องในข้อกฎหมาย เน้นการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ จังหวัดระนอง เพื่อให้โครงการกลับมาดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้

“ท่านอนุทิน เน้นย้ำว่าการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่เนื่องจากท่านเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทยได้ไม่นานและไม่รับทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อได้ทราบถึงปัญหาแล้วก็จะแก้ไข และย้ำว่าในยุคที่ท่านเป็น รมว.มหาดไทยอะไรเป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชนจะต้องจัดการให้เร็วที่สุด ท่านจึงจะใช้เวลาช่วงมีประชุม ครม. สัญจรที่ จ.ระนอง เป็นโอกาสในการไปรับฟังเรื่องนี้ และนำเรื่องที่ติดขัดเข้าหารือกับที่ประชุม ครม. เพื่อนำไปสู่การร่วมกันแก้ไขปัญหายกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องในพื้นที่ให้เข้าถึงบริการสาธารณะที่ดีและปลอดภัยโดยเร็ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

ขณะที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้กล่าวชี้แจงผ่านเฟซบุคเพจ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าชายเลนของจังหวัดระนอง ซึ่งการเข้าใช้ประโยชน์ต้องได้รับความเห็นชอบจาก คณะรัฐมนตรี ก่อนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจึงจะสามารถอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ได้ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีหนังสือแจ้งตอบไปยังกระทรวงมหาดไทย ตามหนังสือ ที่ ทส 0406/2168 ลว. 22 กันยายน 2563 ว่าไม่ขัดข้องในการเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การก่อสร้างถนนและสะพานแขวนเชื่อมโยงเส้นทางบริเวณอ่าวเขาควาย ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่น้ำทะเลท่วมไม่ถึง และไม่มีพันธุ์ไม้ป่าชายเลน ดังนั้น การดำเนินโครงการของจังหวัดระนอง น่าจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลนบริเวณพื้นที่ข้างเคียง จึงเห็นควรสนับสนุนและอนุญาตให้จังหวัดระนองเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน

“กระทรวงมหาดไทย จะต้องนำความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีมติเห็นชอบการเข้าใช้ประโยชน์ตามโครงการก่อสร้างสะพานดังกล่าว แล้วจึงยื่นขออนุญาตต่อกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตามขั้นตอน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ดำเนินการ ประสานติดตาม ไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่คณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ต่อไป” เพจกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุ

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #ใช้โป๊ะข้ามคลองไปเรียน #โรงเรียนบ้านเกาะพยาม #ชาวมอร์แกน #ระนอง