นายกฯ ลั่น ไทยพร้อมเป็นฮับการบิน

1242

นายกฯ เผย รัฐบาลพร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ย้ำประเทศไทยมีความพร้อมทุกด้าน อยากให้เชื่อมระบบรางกับอนุภาคลุ่มน้ำโขง-จีนตอนใต้ หวังแลนด์บริดจ์เชื่อมการค้า 2 ฝั่งมหาสมุทร

วันที่ 12 มกราคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ ว่า  รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ทำให้ประชาชนมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงเส้นทางการขนส่ง และการท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งระบบขนส่งสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวก บัตรโดยสารร่วม

โดยขอให้ดูการพัฒนาที่เหมาะสมในระดับความต้องการของพื้นที่ และความต้องการของประเทศให้สอดคล้องกัน สนามบินของประเทศไทยเราจะยังต้องมีการปรับปรุง ต่อขยาย รวมถึงสร้างใหม่ในอีกหลายแห่ง โอนย้าย ถ่ายเท เพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในอนาคต บริหารจัดการเที่ยวบินให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับนักเดินทางในแต่ละพื้นที่
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมผลักดันทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคให้ได้ ประเทศไทยมีจุดแข็งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งพื้นที่ที่อยู่ใจกลางของภูมิภาค สภาพอากาศที่เป็นมิตร สิ่งอำนวยความสะดวก ต่าง ๆ ที่รองรับแรงงานทักษะสูงที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศ ไม่มีเหตุผลใดที่ประเทศไทยไม่พร้อมจะเป็นศูนย์กลางการบิน

ในด้านการเชื่อมต่อทางราง ขอให้บูรณาการแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเข้ากับเส้นทางในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงกับจีนตอนใต้และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่น ๆ โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนในแนวเส้นทางยุทธศาสตร์ขนส่งสินค้าหลัก พัฒนาระบบขนส่งทางรางเชื่อมระหว่างไทย สปป.ลาว และจีนที่จังหวัดหนองคาย พัฒนาร่องน้ำเศรษฐกิจแม่น้ำเจ้าพระยา น่าน ป่าสัก

นายเศรษฐากล่าวว่า อีกหนึ่งโครงการที่ขอให้ความสำคัญ คือโครงการแลนด์บริดจ์ ใช้จุดแข็งของสภาพภูมิศาสตร์ที่เชื่อมทั้งสองฝั่งของมหาสมุทร เปิดประตูการค้าสองฝั่งมหาสมุทรทางภาคใต้ ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและคมนาคมที่สำคัญ เสริมสร้างความเชื่อมโยงและซัพพลายเชน ในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเราจะเสริมความแข็งแกร่งของการขนส่งผ่านช่องแคบมะละกา และคาดว่าจะสร้างงาน 280,000 ตำแหน่ง คาด GDP โตขึ้น ปีละ 5.5% โครงการนี้มีประโยชน์ต่อประเทศมหาศาล โดยขอให้ทุกท่านช่วยกันสนับสนุนผลักดันไปด้วยกัน
 
ด้านคมนาคม นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยังเร่งดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย เพื่อมุ่งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง AI การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ มุ่งหน้าดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษการลงทุนต่าง ๆ ผ่าน BOI และ อีอีซี เชื้อเชิญทั้งเงินทุนและบุคลากรที่มีความเป็นเลิศในทุก ๆ ด้าน พัฒนาสตาร์ทอัพโดยเฉพาะระดับยูนิคอร์นให้เติบโตและแข่งขันได้ในระดับโลก หามาตรการแก้ไขและช่วยประคองหนี้สินและต้นทุนทางการเงินสำหรับ SME เพิ่มการค้ำประกันสินเชื่อให้ SME จัดทำการจับคู่กับผู้ให้ทุน

นอกจากนี้ นายเศรษฐากล่าวว่า ด้านพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินและตลาดทุน ตนเองตั้งใจที่จะผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค ที่ธนาคารนานาชาติ นักลงทุนสถาบัน บริษัท Fintech กองทุนระดับโลก และกองทุนของคนไทย สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้รอยต่อ เชื้อเชิญให้นักลงทุนเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทย โดยเปิดให้บริการกับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“เราจำเป็นต้องปลดล็อคกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรค เปลี่ยนบทบาทของรัฐจากอุปสรรคให้เป็นรัฐสนับสนุน ฟื้นฟูระบบนิติธรรมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และมอบสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่สถาบันต่าง ๆ  หากเราสามารถดึงสถาบันต่าง ๆ มาได้ ประเทศไทยจะมีเม็ดเงินสะพัดมหาศาล ประชาชน บริษัทของคนไทย ก็จะสามารถเข้าถึงบริการ ทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้นได้” นายกฯ ระบุ 

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #เศรษฐาทวีสิน #ฮับการบิน #แลนด์บริดจ์