“ยุทธจักรโล่เงิน”เริ่มประดาบ ต้นปี 67 ส่อเปิดศึกชิงบัลลังก์”เดินเกมเจาะยาง-เพิ่มคู่แข่ง”

27354


              แค่เริ่มศักราชปี 2567ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ สำนักปทุมวันเกิดปรากฏการณ์ที่พอจะอนุมานได้ว่าเกมชิงบัลลังก์เจ้าสำนักสีกากี  เริ่มประดาบกันแล้ว

              ทั้งที่ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 8-9 เดือนถึงจะลงมติเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)คนใหม่ แทน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่จะเกษียณอายุวันที่ 1 ตุลาคมนี้
        ปรากฏการณ์แรกจะเรียกว่าเกมเจาะยางหรือเตะตัดขาคงไม่ผิด

             เมื่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเส้นทางเงิน เข้าร้องกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.)ให้สืบสวนเอาผิดตำรวจระดับนายพลและบุคคลที่เกี่ยวรวม 8 นาย

     นายอัจฉริยะ บอกว่าร้องให้ตรวจสอบเพราะพบเบาะแสเรียกรับผลประโยชน์จากบัญชีม้าและทำเป็นขบวนการ ขอให้ตำรวจ ปปป.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบนายตำรวจและพวกรวม 8 คน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์จากบัญชีม้าของนายพุฒิพงศ์และนายครรชิต ผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ เป็นเงินตั้งแต่ 3.5 แสนถึงเกือบ 4 ล้านบาทหรือไม่.?
 

หากตรวจสอบถึงกรณีร้องเรียน อดที่จะเชื่อมโยงกับกรณีตำรวจไซเบอร์นำกำลังบุกค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.พร้อมออกหมายจับตำรวจคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวหาว่าพัวพันเว็บพนัน น.ส.มินนี่ เมื่อกลางปี 2566 ไม่ได้
   
ซึ่ง “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ความเห็นว่า”ที่นายอัจฉริยะ ร้องเรียนเหมือนนิทานที่มีการเล่ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ เปรียบเสมือนนิยายเรื่องหนึ่ง ขอยืนยันว่าไม่เคยมีส่วนร่วมกับเว็บพนันใดๆทั้งสิ้น ผมทำหน้าที่ตำรวจและเป็นคู่อาฆาตกับเว็บพนันมาโดยตลอด จึงไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร ไม่คิดอาฆาตใครและไมคิดจะฟ้องใคร”
   
เมื่อมองถึงการจุดประเด็นขึ้นมา คงอนุมานได้ว่าหมากเกมนี้เป็นการดิสเครดิต พล.ต.อ.สุเรเชษฐ์ รองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 แบบเต็มๆ เพราะเนื้อหาที่ร้องเรียนส่วนใหญ่เกี่ยวโยงกับคดีที่ตำรวจไซเบอร์บุกค้นบ้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมื่อปีกลายอยู่แล้ว

  ปรากฏการณ์ที่ 2 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขอโอนให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 ที่หลุดโผ อดนั่งเจ้าสำนักปทุมวัน ไปเป็น เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)
   

ส่งผลให้ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ว่าง 1 ตำแหน่ง ตามกฎหมายตำรวจ 2565 จะพิจาณาการแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส ผู้ช่วย ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 ที่ขยับขึ้นคือ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข นักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.)รุ่น 39 เกษียณอายุปี 2568 มีข่าวสะพัดว่าค่อนข้างจะใกล้ชิดกับอดีตนายกคนบ้านเดียวกัน
 
จึงเท่ากับว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ที่จะมีขึ้นประมาณเดือนสิงหาคมหรือกันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)มีตัวเลือกเพิ่มอีก 1 คน

  จากเดิมเรียงตามลำดับอาวุโสอันดับ 1 พล.ต.อ.รอย เมื่อถูกโยกไป สมช.  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  จะขยับเป็นอันดับ  1 ตามด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ อันดับ 2 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ อันดับ 3  พล.ต.อ.สารวุฒิ การพานิช  อันดับ 4  พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ อันดับ 5 และคาดว่าเมษายนนี้ รอง อวุโสฯตามกฏหมายกำหนดอ จะเป็นของพล.ต.ท.ประจวบ

    ซึ่ง รอง ผบ.ตร.ทั้ง 6 นาย ล้วนมีสิทธิ์ลุ้นนั่งเบอร์ 1 เจ้าสำนักปทุมวันได้แทบทั้งสิ้น แม้กฎหมายตำรวจฉบับใหม่ จะระบุว่าคัดเลือกจากอาวุโสอันดับ 1 บวกความรู้ความสามารถประกอบ แต่กฎหมายตำรวจฉบับดังกล่าวได้สิ้นมนต์ขลังไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นนาย พล.ต.อ.ทั้ง 6 นายมีโอกาสลุ้นพอๆกัน


  แม้การแต่งตั้งที่ผ่านมา นายเศรษา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน ก.ตร. และเป็นผู้เสนอชื่อให้รองผบ.ตร.ให้ ก.ตร.ลงมติเลือกเป็น ผบ.ตร. คิดเสนอชื่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ อาวุโสอันดับ 3 เพราะมองว่ามีเวลาทำงานอย่างน้อย 2 ปี แต่ในที่สุดต้องยกธงขาว ยอมเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ แทน

    ดังนั้นนับจากนี้ไปจนถึงเดือนสิงหาคมหรือกันยายน เกมชิงอำนาจเพื่อก้าวสู่บัลลังก์เจ้าสำนักปทุมวัน คงจะเข้มข้นและดุเดือด อย่างแน่นอน จะได้เห็นสารพัดวิธีและสารพัดเกม ที่จะงัดมาดิสเครดิตกัน ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นแค่เพียง ตรรกะ เวลา ณ. ปัจุบันเท่านั้นเพราะเมื่อถึงเวลา แต่งตั้ง ผบ.ตร. ต้องดูองค์ประกอบทางการเมือง บุญวาสนา บารมี   ณ.เวลานั้น อีกที

      แต่เพียงแค่เริ่มต้นศักราชใหม่ไม่ถึงสัปดาห์ การประดาบมีให้เห็นแล้ว จะเลือดสาดกันแค่ไหน รอง ผบ.ตร.คนไหนจะเข้าวิน คงต้องติดตาม !!!